วิธีใช้ Find My iPhone – ไอโฟนกรูอยู่ไหน

แอปเปิลเปิดให้ใช้บริการ Find My iPhone ฟรีแล้วใน iOS 4.2 โดยบริการนี้นอกจากจะช่วยให้เราสามารถหาว่าเครื่องเราอยู่ที่ไหนในตอนนี้แล้ว ยังมีความสามารถอื่นอย่างเช่น ส่งข้อความพิเศษให้ขึ้นที่หน้าจอ, สั่งให้เครื่องส่งเสียงดังขึ้น แม้จะเข้า Silent Mode ก็ตาม, สั่งให้เครื่อง Lock และตั้ง Password ไว้ หรือจะให้เครื่องลบข้อมูลทั้งหมดไปเลยก็ได้

บริการนี้เปิดให้ใช้ฟรีสำหรับคนที่ใช้ iPhone 4, iPod Touch 4th Gen และ iPad แต่ถ้าใครเป็นสมาชิก Mobile Me อยู่แล้วก็เปิดใช้ได้กับไอโฟนตั้งแต่รุ่น 3G ขึ้นไป

สำหรับการติดตั้งก็ไม่มีอะไรมาก เข้าไปที่ Mail เลือก Mobile Me แล้วใส่อีเมล์ของ Apple ID เรา แค่นี้ก็เสร็จ หรือถ้าใครยังไม่มี Apple ID ก็กดสร้าง Free Account ได้

หลังจากเปิดใช้ Find My iPhone แล้ว เราก็จะสามารถ login เข้าไปที่ Me.com ด้วย user เดียวกันได้ โดย user เดียวกันนี้สามารถใช้ได้กับ iPhone, iPod Touch หรือ iPad พร้อมกันเลยก็ได้

เมื่อ Login เข้าไปแล้วก็จะพบกับแผนที่บอกตำแหน่งปัจจุบันของเครื่อง

เมื่อคลิ๊กเข้าไปจะแสดงรายละเอียดว่าได้รับข้อมูลตำแหน่งล่าสุดเมื่อไหร่

เราสามารถส่งข้อความพิเศษไปถึงเครื่องได้ มี Option ให้ส่งเฉพาะข้อความหรือส่งเสียงด้วยได้

ข้อความใช้ภาษาไทยได้ และเสียงที่เข้ามาก็ดังมาก แม้เราจะเข้า Silent Mode อยู่ก็ตาม

อีกฟีเจอร์นึงที่ดีมาก คือการสั่ง Lock เครื่อง โดยเราจะต้องตั้ง Password เป็นตัวเลข 4 หลักก่อน
เมื่อกดส่ง เครื่องของเราจะถูก Lock ทันที ไม่ว่าเราจะเล่นเกมส์ ดูหนัง หรือทำอะไรอยู่ เครื่องจะกลับเข้าหน้า Lock Screen แล้วเราจะต้องใส่ Passcode เพื่อเข้าไปใช้งานเครื่องอีกครั้ง

จากที่ลองดู เครื่องจะถูกตั้งว่าต้องใส่ Passcode ตลอดทุกครั้ง แม้ว่าเราจะใส่ครั้งแรกถูกต้อง แต่ถ้ากลับเข้ามาหน้า Lock Screen ใหม่ ก็จะต้องใส่ Passcode อีก

สุดท้ายคือการสั่งให้เครื่องลบข้อมูลทั้งหมดทันที ซึ่งอันนี้ไม่ได้ลองดูครับ ยังไม่กล้าพอ -_-“

ทุกครั้งที่เราส่งข้อความ หรือสั่งการอะไร จะมีอีเมล์แจ้งเตือนมาที่ account ที่เราสมัครด้วย

จากที่ลองทดสอบดูก็พบว่า

  • เครื่องจะแอบส่งตำแหน่งปัจจุบันของเรา เป็นระยะๆ ไม่แน่นอน ทำให้บางครั้งเมื่อเราสั่งการจากหน้าเว็บจะใช้เวลาพอสมควรกว่าจะมาถึงที่เครื่อง
  • เพราะงั้นถ้าใครที่ไม่ได้ใช้ GPRS Unlimited ควรระวัง
  • ถ้าหากไอโฟนใช้ Wifi อยู่ เวลาจะอยู่ที่ 1-5 วินาที แต่ถ้าผ่าน GPRS จะอยู่ที่ 3 – 15 วินาที
  • ถ้าเราเล่นเกมส์หรือดูหนังอยู่แล้วมีสัญญาณ Lock เครื่องเข้ามา เมื่อกด Passcode ผ่านเข้าไปแล้วไอโฟนจะเปิดที่หน้าเกมส์นั้นให้เล่นต่อเลย ไม่ได้ไปหน้า Home (คือไม่ได้ออกจากโปรแกรมนั่นเอง)
  • ถ้าปิดเน็ต ทุกอย่างก็จบ Find My iPhone ก็จะใช้การไม่ได้

โดยสรุป Find My iPhone ก็เป็นฟีเจอร์ที่มีประโยชน์มากพอสมควร ถึงแม้จะมีข้อจำกัดที่ต้องใช้ผ่านอินเทอร์เน็ต แต่ก็ถือว่าเป็นบริการเสริมที่ดูดีทีเดียว