[MCWedding] 3 เดือนแรกของการเตรียมงานแต่งงาน

จากวันที่ขอแต่งงานมาจนถึงวันนี้ เวลาก็ผ่านไปแล้ว 3 เดือนอย่างรวดเร็ว

3 เดือนที่ผ่านมาเกิดอะไรขึ้นบ้าง ?

ขอบคุณเพื่อนๆ ที่ต้อนรับกลับออฟฟิศอย่างอบอุ่น -_-“

– เดือนที่ 1 –

หลังจากกลับมาจากเที่ยวต่างประเทศ แน่นอนพอกลับถึงบ้าน ถึงออฟฟิศปุ๊บ เสียงพูดคุย แสดงความยินดี โทรศัพท์เข้ามาถามก็ดังกริ๊งกร๊างไม่หยุด เวลานั้นทุกคนได้แต่เห็นภาพใบนั้นใบเดียว (ก็โชว์แค่ใบเดียวนิ) ก็เข้าใจว่าเราจะแต่งงานกันในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้า

แรงขึ้นไปอีกหน่อยหลังจากเอาวิดีโอตอนขอแต่งงานมาให้ดู เนื่องจากอารมณ์ค่อนข้างเปลี่ยนจากที่หลายคนมองว่าโรแมนติคบ้าง โอเว่อบ้าง ลิเกบ้าง โดยเฉพาะท่านพ่อที่บอกว่าตอนแกคุกเข่านี่มีระนาดตีอยู่ข้างๆ เตร๊งงง เตร๊งงง ด้วยใช่ไม๊ ?

โชคดีที่ทำวิดีโอเวอร์ัชันซึ้ง เลยทำให้มุมมองเปลี่ยนไป เป็นเข้าใจและซาบซึ้งแทน (ทำให้ท่านพ่อน้ำตาไหลได้ถือว่าประสบความสำเร็จแล้ว)

นอกจากนั้นก็เอาแหวนขอแต่งงานไปปรับขนาด เนื่องจากแหวนที่ซื้อมาเป็นขนาดฝรั่ง ซึ่งใหญ่มาก ใส่นิ้วโป้ผมยังหลวม ไปปรับที่ร้านชั้น 3 MBK ฝีมือดี ค่าทำแค่ 500 บาท แต่ไปครั้งแรกเรากะขนาดผิด คิดว่าใส่หลวมๆ หน่อยจะดี แต่ปรากฏว่ามันหลวมเกินไป เลยต้องไปปรับใหม่อีกครั้งนึง (เสียเงิน 2 รอบ)

แหวนวงใหญ่มากกกก

จำชื่อร้านไม่ได้ แต่อยู่ชั้น 3 MBK ฝีมือดีครับ รับรองคุณภาพ

จากหลวมขนาดใส่นิ้วโป้ไม่ได้ มากลายเป็นพอดีเป๊ะๆ


– เดือนที่ 2 –


หลังจากเริ่มตั้งหลักได้ เราสองคนก็เริ่มเตรียมข้อมูลงานแต่ง โดยเริ่มจากทำความเข้าใจกับพ่อแม่พี่น้องว่า ยังไม่ได้มีฤกษ์แต่งเลยจ้า ค่า ครับ โว้ย !! อย่าถามให้มันมากนักจ้า ค่า ครับ โว้ย !!

ข้อดีของการขอแต่งงานแต่เนิ่นๆ คือได้มีเวลาเตรียมตัวนาน เราสองคนได้ข้อสรุปกันว่าจะขอเตรียมงานแต่ง 1 ปีเต็ม !! นั่นคือถ้าจะจัดงานก็คงเป็นปลายปี 2011 โน่นเลยทีเดียว

เราเริ่มจากการคุยไอเดียในฝันของแต่ละคน ว่าอยากทำอะไร เคยฝันไว้ว่างานแต่งของตัวเองจะเป็นแบบไหน ? ไม่ใช่แค่ฝันของเรา แต่รวมไปถึงฝันของพ่อแม่ด้วย อย่าลืมว่าพ่อแม่ก็มีความฝันในงานแต่งของลูกอยู่เหมือนกัน

ในระหว่างที่วาดฝันกันอยู่ ก็เข้าสู่โลกความเป็นจริงบ้างด้วยการสอบถามพี่ๆ เพื่อนๆ น้องๆ ที่แต่งงานกันไปแล้วว่ามีประสบการณ์กันอย่างไร ค่าใช้จ่าย การจัดงาน อุปสรรค์ ฯลฯ

ช่วงนั้นกำลังเข้าสู่ปีใหม่พอดี ผมก็บังเอิญมีไอเดียแนวๆ อยากถ่ายรูป Pre Pre Wedding ในช่วงนี้เลย โดยได้น้องรินน้องชายสุดหล่อมาเป็นตากล้องให้ เรานั่งสรุปไอเดียให้น้องรินฟังว่าอยากได้รูปแบบนี้ ซึ่งทีแรกทุกคนก็อึ้งว่าเฮ้ย คิดได้ไงฟะ แต่หลังจากเก๊ตแล้ว ไอเดียย่อยก็ตามมาอีกเพียบ จนเริ่มสงสัยว่า

แล้วเราจะถ่ายกันทันเหรอเนี่ย

ซ้อมเล่น Face Fighter กับ @CherryJaja
จนได้รู้ว่าหลังแต่งอาจจะต้องเจอสภาพแบบนี้ ><

– เดือนที่ 3 –

ผมถือโอกาสฤกษ์ดีวันปีใหม่ ถ่าย Pre Pre Wedding กันวันที่ 1 มกราคมเลย

สาเหตุที่เราเรียกการถ่ายรูปครั้งนี้ว่า Pre Pre Wedding เพราะไม่รู้ว่ามันจัดอยู่ในหมวดหมู่อะไร จะรูปก่อนแต่งก็ไม่ใช่ จะรูปถ่ายแบบก็ไม่เชิง เอาเป็นว่าเสร็จแล้วเป็นไง จะเอามาให้ได้ดูกัน (แต่รับรองว่าเจ๋ง)

เดือนนี้เราได้ข้อสรุปว่าจะแต่งงานช่วง ตุลาคม – ธันวาคม ภายในปีนี้
ส่วนเพื่อนๆ เริ่มจะเลิกถามแล้วว่าสรุปแต่งเมื่อไหร่ เข้าใจว่าขี้เกียจถามละ แต่งเมื่อไหร่มันคงจะมาบอกเองนั่นแหล่ะ (คุณเข้าใจถูกต้องแล้วคร๊าบบบ)

สถานที่เป็นเรื่องถัดมา ซึ่งก็สร้างความปวดหัวให้กับเรามาก เนื่องจากทั้งสองคน ถึงแม้จะเป็นเด็กขอนแก่น เติบโตและเรียนที่ขอนแก่น (จนถึง ม.ปลาย)

แต่พอมานับญาติๆ หรือแขกที่จะมางานทั้งหมดแล้ว เราพบว่า 70% ของแขกในงาน อยู่กทม. ทั้งหมดเลย

การจะโยกย้ายคน 200 กว่าคนไปงานที่ขอนแก่นเป็นเรื่องยาก และแทบจะเป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนที่เรารักและอยากให้มางานครบหมด จากประสบการณ์งานของพี่ๆ ที่จัดงานแต่งที่ขอนแก่นก็พบว่ามีเพื่อนๆ มาจากกทม. ไม่ถึง 20-30 คน .. ซึ่งสำหรับผมแล้วมันเป็นเรื่องที่เศร้าใจมาก

เราเลยมองลู่ทางที่จะจัดงานที่กทม. มากขึ้น ซึ่งการจะตัดสินใจอะไรได้ก็ต้องอาศัยข้อมูล เพราะงั้นเราจึงเริ่มหาราคา ค่าที่พัก โทรศัพท์ อีเมล์ ตระเวนเดินเข้าไปสอบถามโรงแรมทั่วกรุงเทพฯ จนถึงตอนนี้ก็ยังคงหาข้อมูลอยู่

น้องที่บริษัทซื้อให้ .. ขอบใจนะ

แวะไปดูห้องจัดงานที่เมืองทอง

ตากล้องถ่าย Pre Pre Wedding ของเรา

:: สรุป 3 เดือนแรกของการเตรียมงานแต่ง ::

  • ใช้เวลาเตรียมงาน 1 ปี
  • มีแนวโน้มจะจัดงานที่กรุงเทพฯ มากกว่าขอนแก่น
  • ข้อมูลมีหลากหลาย การจัดเก็บให้เป็นหมวดหมู่ ทำรายการอย่างละเอียดแต่แรก จะช่วยให้เราไม่ลืม และดึงข้อมูลกลับมาดูเมื่อไหร่ก็ได้
  • Google Doc เป็นทางออก เราสร้างไว้หลาย Doc ทั้งข้อมูลโรงแรม, ไอเดียแบบก๊อปแปะ, รายชื่อแขก ฯลฯ
  • การจดบันทึกก็สำคัญ คิดว่าเวลาผ่านไปได้กลับมาอ่านคงรู้สึกดี
  • ช่วงนี้งานสังคมไม่ควรขาด แวะไปเจอเพื่อนฝูงให้มากเข้าไว้
  • ค่าโรงแรมในกรุงเทพฯ ไม่ได้แพงอย่างที่คิด ถ้ารู้จักเลือกให้ดี
  • การพูดคุยกับผู้ใหญ่ควรใช้เหตุผลมากกว่าอารมณ์ ผู้ใหญ่ทุกคนรอรับฟัง
  • ถ่าย Pre Pre Wedding ไปหนึ่งรอบ อยู่ระหว่างการ Process รูป