ครั้งหนึ่งที่เคยขึ้นปก The Nation กับครอบครัว

ผมมีพี่เป็นเซเล็บในโลก Social Network อยู่ 2 คน แต่คนที่รู้จักผมอาจจะไม่รู้จักพี่อีกสองคน และคนที่รู้จักพี่ทั้ง 2 ก็อาจจะไม่รู้จักผม เพราะเราอยู่กันคนละวงการ

@Oweera เป็นหนุ่มนัก Social ที่แชร์เรื่องการตลาดสำหรับ SME อย่างต่อเนื่อง เป็นที่รู้จักในแวดวงธุรกิจ ซึ่งเขาคือพี่ชายแท้ๆ ของผม

@V_Victory1 สาวนักสังคมสงเคราะห์ ที่คอยแชร์และคอยช่วยงานด้านสังคมอยู่เสมอ โดยเฉพาะช่วงน้ำท่วมในไทย

@Khajochi กสยฟพทสตจ. สาวกแอปเปิลที่แชร์เรื่องแอปเปิล และเรื่องราวความรักอยู่ตลอด

ทั้ง 3 คนเป็นพี่น้องกัน โดย @Oweera เป็นพี่ชายแท้ๆ ของผม ส่วน @V_Victory1 เป็นพี่สาวแท้ๆ ของผม ซึ่งหลายครั้งที่เรามักได้คำถามประเภท “เฮ้ย เพิ่งรู้ว่านายเป็นน้องของ”​, “โอ้ว เพิ่งรู้นะเนี่ยว่าพี่พี่สาวของ”

เรื่องราวเริ่มมาเป็นที่รู้จัก เมื่อพี่ชายกับพี่สาวผมไปงาน Zocial Rank ที่พารากอน และก็ทวีตแชร์เรื่องราวในงานออกไป ซึ่งผมก็เข้ามาแจมด้วย ปรากฏว่าทั้ง 3 คนทวีตดันไปขึ้นจอพร้อมๆ กัน เลยทำให้ @lekasina แห่ง Nation เพิ่งได้รู้ความจริงว่า ทั้ง 3 คนพี่เป็นน้องแท้ๆ กันหรือนี่

เลยเป็นที่มาของบทความในหนังสือพิมพ์ The Nation พร้อมกับบทสัมภาษณ์ใน Nation สุดสัปดาห์ โดยเราก็ได้เล่าเรื่องราวการใช้ Social Network ในมุมของตัวเอง และมุมครอบครัวครับ

ปล. จริงๆ ผมมีพี่ชายคนโตอีกคน แต่ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ Netherlands ครับ ถ้าอยู่เมืองไทยอาจจะเป็นเซเล็บไปอีกคน 55

  • ทั้งหมดนัดคุยกันที่ True Coffee พารากอน หามุมถ่ายรูปสวยๆ จากในร้านนั่นแหล่ะ
  • พี่เล็กสนใจเรื่องการใช้ Social Network และการพูดคุยกันในครอบครัวของเรา ที่ทำผ่าน Social Network เช่นกัน
  • เล่านิดนึงว่าที่บ้านเรามีกัน 6 คน พ่อ แม่ ลูกชาย 3 ลูกสาว 1 ทีนี้พอแต่ละคนมีครอบครัว ก็แยกไปอยู่บ้านของตัวเอง ทำให้การติดต่อกันค่อนข้างลำบาก เพราะบ้านจริงๆ เราอยู่ขอนแก่น
  • ยุคที่ยังไม่มี iPhone เราใช้การติดต่อด้วยอีเมล์ โดยเริ่มจากผมไปสร้างเว็บที่ชื่อ Chiaranaipanich.com (มาจากนามสกุลเจียรนัยพานิชย์) เพื่อรวบรวมเรื่องราวของคนในครอบครัว 
เว็บ Chiaranaipanich.com ที่ใช้เป็นศูนย์กลางครอบครัวในยุคก่อน
  • ลูกๆ ทุกคนมีบล็อกของตัวเอง และก็มี Picasa ไว้แชร์รูปของตัวเอง
  • ในเว็บผมก็เลยดึงภาพมาจาก Picasa ของแต่ละคน บล็อกที่แต่ละคนเขียน ทวีตด้วย และก็มีเนื้อหารวมๆ ตรงกลาง เป็นเว็บง่ายๆ แต่ก็เป็นเรื่องราวที่แชร์ให้กันอ่าน
  • นอกจากนี้ก็มีอีเมล์กลางตัวนึง ที่ส่งปุ๊บก็จะ Redirect ไปหาทุกคนในครอบครัว แล้วก็ Reply กันไปมา ก็ได้ความเป็นครอบครัวดีนะในสมัยนั้น
สมัยก่อนทั้งบ้านคุยกันทางอีเมล์ครับ โดยใช้ Group Mail
  • พอมายุคนี้ เราแทบจะไม่ได้ใช้อีเมล์กันแล้ว และโทรศัพท์มือถือก็เข้าเน็ตได้ตลอดเวลา วิธีการติดต่อในบ้านเราเลยเปลี่ยนไป เริ่มจากลูกๆ รวมตังค์ซื้อ iPhone 4S ให้ท่านแม่ และ iPad 2 ให้ท่านพ่อ (ตอนนั้นคือรุ่นล่าสุดละ)
  • เหตุผลใหญ่ที่เลือกสายแอปเปิลเพราะใช้ง่าย และมี Facetime คุยกับลูกๆ แบบเห็นหน้าได้สะดวก ที่บ้านเลยกลายเป็นสาวกแอปเปิลไปทุกคน โดยมีกสยฟพทสตจ.ชักจูงอยู่เบื้องหลัง หึๆๆๆ
ยุค Line ครองเมือง เล่นกันทั้งครอบครัวเช่นกัน
  • Social Network ที่ทุกคนใช้คือ Facebook เราก็จะอัพรูปกันตามสะดวก พ่อแม่ก็มา like มาเม้น ได้รู้ว่าลูกๆ เป็นยังไงบ้าง
  • ล่าสุดคือเริ่มมี Line เข้ามา ยิ่งง่ายกว่าเดิมเพราะเราสร้าง Group ครอบครัวไว้คุยกัน ทุกคนก็ใช้ Line Group ในการแชร์ว่าตอนนี้ไปไหน ทำอะไรอยู่ เรียกว่า Connect กันทั้งบ้านตลอดเวลา แถมส่งได้ทั้งภาพและวิดีโอด้วย
หลายครอบครัวอาจจะมองว่า โห บ้านนี้ทุกคนทันสมัย พ่อแม่ชอบไอที เลยทำแบบนี้ได้ มันไม่เหมาะกับครอบครัวเราหรอก … แต่ผมอยากบอกว่าจริงๆ แล้วอุปกรณ์อย่าง iPad เนี่ยมันใช้ง่ายมาก แม่ผมไม่เคยแตะก็ใช้เป็น สอนไม่นาน ตอนนี้เล่น Line เก่งกว่าลูกๆ อีก
อีกเรื่องคือราคาของอุปกรณ์พวกนี้ถูกลงมาก จากสมัยก่อนที่ต้องซื้อ Notebook ราคาสามสี่หมื่น ใช้ยากเข้าใจยาก เหลือแค่ iPad Mini ราคาหมื่นเดียว ราคามันถูกลงมาก
โลกไอทีมันสามารถเชื่อมครอบครัวได้จริงๆ ครับ 🙂