รีวิว: โปรเจคเตอร์ Epson สำหรับใช้ในบ้าน EH-TW5200

[Advertorial]

ช่วงปีที่ผ่านมาผมมีโอกาสได้ไปเยี่ยมบ้านของญาติๆ ในต่างประเทศ สิ่งหนึ่งที่พบคือหลายบ้านนอกจากจะมีทีวีจอใหญ่แล้ว ยังมีโปรเจ็คเตอร์อีกตัวหนึ่งอยู่ในบ้านด้วย ด้วยความสงสัยว่าทำไมที่บ้านต้องมีโปรเจ็คเตอร์ด้วย ก็ได้คำตอบว่า

“นี่เป็นวิธีที่ดูหนัง ดูฟุตบอลในบ้าน แล้วได้ประสบการณ์ดีที่สุด”

คือความเข้าใจของเรา โปรเจ็คเตอร์คืออุปกรณ์สำหรับออฟฟิศ สำนักงาน แต่วันนี้ก็เริ่มเห็นว่ามีโปรเจ็คเตอร์รุ่นใหม่ๆ ที่ออกแบบมาสำหรับใช้ในบ้านโดยเฉพาะ วันนี้ทาง Epson ส่งเครื่อง Home Projector รุ่น EH-TW5200 มาให้ทดสอบรีวิวกันครับ

ขนาดเครื่อง, อุปกรณ์เสริม

มาดูที่ภายนอกกันก่อน ขนาดของเครื่องกว้าง x ยาว x สูง : 24.7 x 29.7 x 10.6 เซ็นติเมตร น้ำหนักแค่ 2.8 กิโลกรัมเท่านั้น เล็กและพกพาสะดวก ถือมือเดียวสบายๆ

ด้านหลังมีลำโพง และพอร์ทต่างๆ

ด้านข้างมีช่องสำหรับใส่แผ่นกรองอากาศ ป้องกันฝุ่นเข้าไปจับเครื่อง สามารถถอดออกมาล้างเปลี่ยนได้

ด้านบนมีที่เลื่อนปรับขนาดภาพ ระยะโฟกัส และปรับมุมองศาการดู

สายไฟยาว 3 เมตร, มีรีโมทมาให้พร้อม

อุปกรณ์เสริมที่น่าสนใจคือมีแว่น 3 มิติด้วย !! (ซื้อเพิ่มจากชุดปกติ) โดยแว่นจะมีการปรับระยะให้เข้ากับตำแหน่งที่เรานั่งอัตโนมัติ มีปุ่มเปิดปิด, Pair แว่นกับเครื่องโปรเจ็คเตอร์ และมีช่องสำหรับชาร์จแบต

สำหรับ Port ที่มีให้ด้านหลัง มีเยอะอลังการพอสมควร

  • ช่องเสียบสายไฟ
  • HDMI 2 port (HDMI x1, HDMI MHL x1)
  • PC – Serial Port
  • AV Port
  • Audio Out
  • USB (ดูภาพบนจอใหญ่ ผ่าน Thumbs Drive ได้)
  • รองรับ MHL Port (Mobile High Definition Link) ต่อกับสมาร์ทโฟนหรือแท็บเล็ต เพื่อเอาภาพขึ้นจอใหญ่ได้
  • เชื่อมต่อ Wifi ได้ด้วยนะ แต่ต้องซื้อแต่ต้องซื้อ Wireless Lan Unit (ELPAP07) มาต่อเพิ่ม รองรับ 802.11 b/g/n

 

ทดสอบโปรเจ็คเตอร์ Epson EH-TW5200 

เริ่มทดสอบใช้โปรเจ็คเตอร์กันเลยดีกว่า ผมทดสอบกับที่บ้าน โดยการฉายบนผนังความสูงประมาณ 3.5 เมตร ระยะห่างระหว่างโปรเจ็คเตอร์กับผนังบ้านยาว 5 เมตร

พอทดสอบแรกเริ่มด้วยการต่อสาย Serial เข้ากับ MacBook Air โชว์ภาพจอบนโปรเจ็คเตอร์ ซึ่งได้ภาพใหญ่โตมาก แสงจากจอภาพสว่างแปร๊บบบ จนต้องปรับให้เข้ากับระดับสายตาปกติ

ทดสอบโชว์สไลด์ นำเสนองานที่บ้าน ก็ใช้งานได้ดี ไม่ปวดตา ปรับความละเอียดได้ถึงขนาด 1,920 x 1,080 pixel เลยทีเดียว
แน่นอนด้วยความเป็น Home Projector เราก็ต้องทดสอบดูหนังดูทีวี ซึ่งผมทดสอบด้วยการต่อสาย HDMI กับ Apple TV ภาพที่โชว์ทีแรก ทั้งบ้านถึงกับร้อง “โอ้ววววว”

คือมันใหญ่มาก และคมชัดมากกกกกก ความสว่างและ Frame Rate ในอัตราที่พอดีเหมือนดูโรงหนังในบ้าน ไม่ปวดตาเลย

ในเครื่องโปรเจ็คเตอร์มีลำโพงในตัว ต่อสาย HDMI มาได้ ก็มีเสียงออกมาเลย คุณภาพเสียงระดับกลาง ไม่ได้ดีมาก แต่ก็ไม่ได้แย่ ปรับความดังได้ผ่านเครื่องเลย
ถ้าอยากได้เสียงขั้นสุดน่าจะต้องต่อกับลำโพงข้างนอก ซึ่งก็มีช่องเสียบสาย Audio Out อยู่แล้ว
ปรับแหล่งที่มาของสัญญาณได้ตามนี้ มี HDMI 1, HDMI 2, Video, PC, USB และ Lan (Wifi)
ระหว่างที่ฉายอยู่ สามารถปรับความการแสดงผลได้ผ่านเมนูบนจอ คล้ายๆ กับการใช้งานทีวี
ปรับสีสันได้หลายโหมด ตามภาพเลย

เทียบความคมชัดเวลาต่อกับ Apple TV ดูตัวอักษรที่โชว์บนผนัง คมกริบดี

 

ตัวเครื่องระหว่างฉายชั่วโมงแรกไม่ร้อนมาก (ใช้ในห้องแอร์) มีตัววัดอุณหภูมิบอกว่าเครื่องร้อนเกินไปจนต้องปิดหรือเปล่า

ทดลองชมกีฬาที่มีภาพเคลื่อนไหวเร็วๆ อย่างฟุตบอลและบาสเก็ตบอล ภาพไม่กระตุก สีสันไม่จัดจ้านเท่ากับใช้ทีวี แต่ได้ประสบการณ์ดูที่สุดยอดจริง จอใหญ่เชียร์กันมันส์
ลองเทียบขนาดจอที่ใช้กับเด็กสูง 110 เซ็นติเมตร จะเห็นว่าได้ภาพสูงระดับ 3 เมตรสบายๆ

ทดลองชมคลิป YouTube ก็โอเคดี ปรับได้ถึงความละเอียด 1080p Full HD 1,920 x 1,080 เลย

ทดลองชมหนังแบบ 3 มิติด้วยแว่น ที่เป็นอุปกรณ์เสริมกันดีกว่า เริ่มต้นด้วยการเปิดแว่นตา พร้อม Pair กับเครื่องเพื่อใช้งาน
สาเหตุที่ต้อง Pair แว่นกับเครื่อง เพราะการนั่งใกล้ไกลจอมีผลต่อการปรับระดับภาพในแว่น 3 มิติด้วย ซึ่งตัวแว่นนี้มีแบตเตอรี่ในตัว สามารถชาร์จได้ผ่านสาย Micro USB

ทดลองชมภาพแบบ 3 มิติ คมชัดดี ปรับอัตราการให้มิติของภาพยื่นออกมาทะลุจอได้หลายระดับ ชมนานๆ ไม่ปวดตา แต่ควรต้อง Pair กับระยะห่างของแว่นกับเครื่องให้ถูกต้อง
ฟีเจอร์อื่นๆ
  • ตัวเครื่องสามารถวางเอียงข้างๆ แล้วฉายขึ้นจอได้ ไม่ต้องวางไว้กลางห้อง โดยจะมีปุ่มปรับภาพให้โชว์ถูกต้องได้เอง ซึ่งเป็นฟีเจอร์ที่ดีมาก สำหรับใช้วางเครื่องที่บ้าน 
  • โชว์ภาพแบบ Gallery โดยเสียบ Thumb Drive กับช่อง USB ได้ รองรับ JPEG, BMP, PNG, GIF
  • ทดลองดูแบบไม่ต้องปิดไฟในบ้าน ก็ยังมองเห็นได้โดยปรับความสว่างสูงๆ ภาพออกมาโอเค แต่จะแสบตาเล็กน้อย ดูแบบปิดไฟในบ้านได้อารมณ์กว่า
  • แสงสีขาวและแสงสี สามารถแสดงความสว่าง และแสงสีได้ในเวลาพร้อมกัน โดยไม่ลดคุณภาพของแสงสี ซึ่งตรงนี้โอเคนะ ทำได้มากกว่าแบรนด์อื่นๆ
  • แว่น 3 มิติทำออกมาได้ดี ชอบที่ปรับระยะได้โดยการ Pair กับเครื่อง ดูแล้วไม่ปวดหัว
  • ตัวเครื่องไม่ร้อนเท่าไหร่ ทดลองเปิดในห้องแอร์จนเกือบ 2 ชั่วโมงยังไม่ร้อนจนเตือนว่าให้ปิด
  • เวลาบูทเครื่องประมาณ 5-8 วินาที
  • ราคาหลอดถูกว่าคู่แข่ง 3,750 บาท ถูกกว่าหลายยี่ห้อนะ
  • ราคาเครื่อง 59,900 บาท

:: สรุป ::

ข้อดี
  • โปรเจ็คเตอร์ขนาดเล็ก พกพาสะดวก เหมาะกับเป็น Home Projector มาก
  • เอียงข้างฉายภาพได้คมชัดดี ไม่ต้องวางกลางบ้าน
  • ภาพคมชัดมากๆ ดู 3 มิติได้ไม่ปวดตา
  • ช่องเสียบต่อหลากหลาย ฟีเจอร์ลูกเล่นเยอะ
ข้อเสีย
  • อุปกรณ์เสริมหลายอย่างต้องซื้อเพิ่ม เช่นแว่น 3 มิติ, ตัวต่อ Wifi
  • สีสันไม่เท่ากับการดูบนทีวี แต่ก็ขึ้นอยู่กับฉากหลังที่ฉายด้วยเช่นกัน
  • ราคายังสูงกว่าการซื้อทีวี
Epson EH-TW5200 เป็นโปรเจ็คเตอร์ที่ใช้ในบ้านได้สะดวกดี ติดตั้งง่าย สามารถวางเครื่องได้หลายมุม ภาพคมชัดและมีความสว่างสูง ลูกเล่นมีหลากหลายพอที่จะสู้กับทีวีได้สบายๆ แม้ราคาจะยังสูง แต่ถ้าเทียบกับการทำ Home Theater ภายในบ้าน ก็ได้ประสบการณ์ที่คุ้มค่าครับ

ข้อมูลเพิ่มเติม