รีวิว: Nescafe’ Red Cup Machine เครื่องชงกาแฟสุดเจ๋ง ราคาแค่ 1,990 บาท

มีคนเคยบอกว่า “วิธีดื่มกาแฟแบบที่มีความสุขที่สุด คือการชงกาแฟดื่มด้วยตัวเอง” ซึ่งก็น่าจะตรงกับที่คอกาแฟหลายคนเคยคิดฝันกันไว้ ว่าวันนึงอยากจะมีมุมชงกาแฟเล็กๆ น่ารักๆ ที่บ้านหรือในออฟฟิศ

แต่ปัญหาหนึ่งของการซื้อเครื่องชงกาแฟคือความยุ่งยากในการใช้งาน รวมถึงราคาเครื่องที่ออกจะสูงพอสมควร

โชคดีวันนี้ทางเนสกาแฟได้ให้โอกาสมาทดลองรีวิวเครื่อง Nescafe’ Red Cup Machine ก่อนวางขายจริง แถมเปิดตัวในไทยที่แรกในโลกด้วย !! ตามประสา Geek อย่างเราจะพลาดได้ยังไง แถมยังได้ชิมรสกาแฟอร่อยๆ จากฝีมือตัวเองซะด้วย 😛

[Advertorial]

สเป็คของ Nescafe’ Red Cup Machine

  • ขนาดเครื่องสูงประมาณ iPad Air ไม่ใหญ่ และเบามาก ขนย้ายสะดวก
  • ระบบชงกาแฟแบบผง เน้นความง่าย และรวดเร็ว
  • น้ำเดือดได้ภายใน 40 วินาที เร็วกว่าเปิดคอมพิวเตอร์ซะอีก #ฮา
  • มีช่องกลั่นกาแฟ (Mixing chamber) ข้างในออกแบบให้มีรูปทรงที่สามารถสร้างให้เกิด Cyclone ด้านใน ช่วยดึงกลิ่นและรสชาติของกาแฟออกมามากขึ้น
  • มีช่องสำหรับสร้างฟองกาแฟละเอียดด้วยนะ ไม่ใช่แค่ชงกาแฟอย่างเดียว
  • สามารถทำกาแฟเอสเปรสโซ่, คาปูชิโน่ หรือลาเต้ได้ด้วย
  • ล้างเก็บทำความสะอาดง่าย
  • ราคาเปิดตัวแค่ 1,990 บาท !! 

เตรียมเครื่องก่อนชงกาแฟ

บอกตามตรงว่าปกติชงกาแฟไม่ค่อยเป็นเท่าไหร่ ตอนแรกที่ได้เครื่องมาก็ลุ้นเหมือนกันว่าจะทำออกมาได้ไหม แต่พอได้จับเครื่องจริง ต้องบอกเลยว่ามันใช้ง่ายจนแทบไม่ต้องเรียนรู้อะไรเลย
ด้านหน้าของเครื่องมีถาดวางแก้วมาด้วยนะ ประกอบเสร็จดูดีขึ้นมาทันทีเบย

 

 

ตัวเครื่องมี 2 ส่วนใหญ่ๆ คือที่ชงกาแฟ กับช่องใส่น้ำเปล่า
เทน้ำจนเต็ม แล้วก็นำไปประกอบกับตัวเครื่อง 
เสียบปลั๊กไฟ วางแก้ว เตรียมกาแฟและครีมเทียมไว้ แค่นี้ก็พร้อมทำกาแฟแล้ว !!

มาชงกาแฟกันเถอะ

เช่นเดียวกับอุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิด จะใช้งานก็ต้องกดเปิดเครื่องก่อนนะจ๊ะ แต่ตัวปุ่มเปิดปิดเครื่องจะเป็นสัญลักษณ์บอกด้วยนะ ว่าน้ำเดือดพร้อมชงกาแฟแล้วรึยัง
เริ่มกดปุ่มเปิดเครื่อง ปุ่มจะเป็นสีแดงกระพริบ
แว๊บเดียว ผ่านไป 40 วินาที ปุ่มเปลี่ยนเป็นสีฟ้า คือน้ำเดือดแล้ว ชงได้เลย ว่องไวผุดๆ
เรามาทดลองทำ “เอสเปรสโซ่” กาแฟดำแบบเข้มๆ กันดูดีกว่า ^__^
เริ่มด้วยเปิดฝาด้านบน แล้วก็ใส่กาแฟลงไป ผมทานแก้วเดียวก็ใส่กาแฟไปช้อนนึงกำลังพอดีๆ
หมุนปุ่มด้านบนไปทางขวา จากนั้นกาแฟก็จะค่อยๆ ไหลลงมาที่แก้ว มีกลิ่นกาแฟหอมๆ ออกมาเลย ที่ปุ่มเปิดปิดเครื่องจะมีสัญลักษณ์ไฟกระพริบบอกด้วยนะว่าควรหยุดเมื่อไหร่
แค่นี้ก็ชงได้ง่ายๆ สะดวก แล้วก็เร็วดีด้วย
ทดลองทำอะไรที่ยากขึ้น ลองทำ “คาปูชิโน่” กาแฟผสมนมกันดีกว่า อันนี้เมนูโปรดผมเลย
เริ่มด้วยการใส่ครีมเทียมลงไปที่แก้วกาแฟ 2 ช้อน แล้วก็เอามาวางที่ถาดรอง แต่ถ้าเราปล่อยกาแฟลงมาเลยก็ดูจะง่ายไปหน่อย ตัวเครื่อง Red Cup ทำอะไรได้มากกว่านั้น เพราะมันทำฟองได้ด้วย !!
หมุนไปที่ด้านซ้าย เครื่องจะปล่อยน้ำร้อนจากหัว Jet ที่ช่วยให้มีแรงดันน้ำพุ่งออกมา ทำให้เกิดฟองครีมฟูหนาขึ้นมาเลย
ถ้าดูจากในภาพจะเห็นว่าฟองขึ้นมาหนามาก และก็นุ่มเหมือนชงกาแฟสดตามร้านเลยแหล่ะ
จากนั้นก็หมุนไปทางขวาเพื่อปล่อยกาแฟลงมา ปรากฏว่ากาแฟกับฟองแบ่งเป็นชั้นขึ้นมาให้เห็นเลย 
ด้านบนเป็นฟองนุ่ม ตรงกลางเป็นกาแฟ ด้านล่างเป็นเหมือนน้ำนม อันนี้ชอบมาก ดูสวยดี เอาไปอวดเพื่อนได้เลยว่าชงเองนะเนี่ย 555
นอกจากนี้ก็ยังสามารถทำกาแฟแบบเย็นได้เหมือนกัน แค่เตรียมแก้วใส่น้ำแข็งไว้ แล้วก็เทจากเครื่องชงกาแฟเข้าไปก็ได้ไอซ์ลาเต้ หรือไอซ์คาปูชิโน่แล้วจ้า
สำหรับการเก็บล้างอุปกรณ์ ก็ดึงส่วนต่างๆ ออกมาล้างได้หมด ไม่เกิดปัญหาเครื่องมีคราบกาแฟติด ล้างเครื่องเสร็จตากให้แห้ง ก็ประกอบร่างใช้งานใหม่ได้ทันที

:: สรุป ::

  • ตัวเครื่องทำโอเคเลย อุปกรณ์ที่ใช้แข็งแรง แน่น และที่สำคัญคือ “สวย”
  • กาแฟที่ใช้ชงเป็นแบบผง เพราะฉะนั้นคือเหมาะกับการชงกาแฟแบบไม่ต้องใช้เวลามากนัก
  • น้ำเดือดภายใน 40 วินาที แทบไม่ต้องรอเลย ก็ได้กาแฟทานแล้ว
  • ส่วนที่ชอบที่สุดน่าจะเป็นการเพิ่มฟังก์ชันอย่างตีฟองได้ เพราะกาแฟที่ได้ค่อนข้างต่างจากกาแฟชงเองตามออฟฟิศอย่างเห็นได้ชัด ฟองที่ได้ไม่ใช่แค่สวย แต่นุ่มด้วยนะ
  • ทำความสะอาดง่าย เครื่องเล็ก ยกไปมุมโน้นมุมนี้สะดวก
  • ทดลองให้คนที่บ้านลองใช้ดู โดยที่ไม่บอกราคาก่อน สุดท้ายทุกคนทายว่าเครื่องราคาระดับ 4,000 – 5,000 บาทกันหมด
  • พอบอกว่าราคาขายจริง 1,990 บาทนี่ตะลึงกันมาก คือราคาเครื่องชวนอุ้มกลับบ้านจริงๆ #ฮา
Nescafe’ Red Cup Machine เป็นเครื่องชงกาแฟขนาดเล็ก พกพาสะดวก เน้นการชงกาแฟที่ง่ายและรวดเร็ว ตั้งแต่เสียบปลั๊กจนได้กาแฟ 1 แก้วงามๆ สามารถทำได้ในเวลาไม่เกิน 1 นาที
ข้อเสียที่พอจะนึกออกก็คือไม่ได้ใช้กาแฟแบบเมล็ด แต่ก็ต้องบอกว่าถ้าเน้นความสะดวก ความง่าย และทำมุมกาแฟแบบเริ่มต้นได้ที่บ้าน เครื่อง Red Cup นี้ก็ตอบโจทย์ตรงนี้เลยทีเดียว
ส่วนที่น่าสนใจที่สุดคงเป็นราคา เพราะด้วยเครื่องที่ฟังก์ชันขนาดนี้ คุณภาพของตัวเครื่อง รวมถึงแบรนด์ดังระดับโลกอย่างเนสกาแฟ ก็ถือว่าเป็นเครื่องชงกาแฟที่ขายในราคาน่าสนใจมากจ้า
ข้อมูลเพิ่มเติม