รีวิว: HISHIELD กระจกนิรภัยกันรอยสำหรับ iPhone 6

เชื่อว่าหลายคนที่ซื้อ iPhone หรือสมาร์ทโฟนเครื่องใหม่มา สิ่งแรกที่มองหาคือการติดฟิล์มหรือกระจกกันรอย ป้องกันจอมีรอยขีดข่วน หรือแม้แต่กันจอแตกได้ด้วย

ตอนนี้ก็มีให้เลือกหลายแบรนด์เต็มไปหมดในตลาด แถมมีหลายแบบ หลายรุ่นให้เลือกด้วย

พูดถึงแบรนด์ HISHIELD หลายคนอาจจะยังไม่คุ้น แต่พูดถึง Hi-Kool บริษัทผู้ผลิตฟิล์มติดกรองแสงรถยนต์ชื่อดัง ก็น่าจะร้องอ๋อกันเลยทีเดียว ซึ่ง HISHIELD ก็เป็นการนำประสบการณ์จากธุรกิจฟิล์มกรองแสงรถยนต์มาต่อยอดในธุรกิจกระจกนิรภัยและฟิล์มกันรอยโทรศัพท์

ฟิล์ม vs กระจกกันรอย

  • หลายคนสงสัยว่าต่างกันอย่างไร ระหว่างฟิล์มกับกระจกกันรอยสมาร์ทโฟน
  • ฟิล์มจะบางกว่า ราคาถูกกว่า แต่กันรอยได้ไม่ดี และตัวฟิล์มเองก็เป็นรอยได้ ต้องเปลี่ยนบ่อย
  • กระจกกันรอยก็จะตรงข้าม คือกันรอยได้ดี กันกระแทกได้ ไม่เป็นรอยให้เห็น แต่ราคาก็สูงกว่า และขนาดหนากว่า
  • ส่วนจะเลือกแบบไหน อันนี้ผมว่าแล้วแต่ความชอบ และการใช้งาน คือถ้ารักษาเครื่องดีมากเยี่ยงไข่ในหิน ก็ใช้ฟิล์มได้ ไม่แพงด้วย
  • แต่ถ้าชอบทำตกบ่อย วางมือถือไว้ในกระเป๋าที่มีของเยอะ ชอบวางบนโต๊ะบ่อยๆ ชอบแตะจอที่ลื่นมือ ก็แนะนำเป็นกระจกนะ อย่างน้อยก็สบายใจมากขึ้น

[Advertorial]

แกะกล่องและทดลองติดกระจกนิรภัยกันรอย HISHIELD ด้วยตัวเอง

วันนี้ทาง HISHIELD ได้ให้กระจกนิรภัยกันรอยมาได้ลองรีวิวกัน ซึ่งก็บอกทีมงานก่อนเลยว่าผมอยากลองติดทั้งหมดด้วยตัวเอง คือให้มาเยอะ ติดถูกติดผิดคงไม่เป็นไรมั้ง 555

เนื่องจากมีอยู่หลายรุ่นมาก เลยจะเน้นรีวิว 2 รุ่นคือแบบที่ติดเต็มจอ iPhone 6 กับรุ่นถนอมสายตา

รุ่นแรกเป็น Blue Light Cut Tempered Glass กระจกนิรภัยถนอมสายตาสำหรับ iPhone 6 กันเฉพาะด้านหน้า ราคา 890 บาท

แกะกล่องออกมา ก็มีกระจกกันรอยหน้าจอด้านหน้า, ฟิล์มกันรอยด้านหลัง ผ้าเช็ด และแอลกอฮอล์สำหรับเช็ดจอก่อนติดตั้ง

กระจกนิรภัยส่วนใหญ่มีปัญหาคือแข็งมาก งอแล้วแตก ก็ทดลองงอดูประมาณ 30 องศายังไม่มีอะไรเกิดขึ้น ยืดหยุ่นใช้ได้

ทดลองติดกระจกด้วยตัวเอง คือสารภาพว่าผมเคยติดฟิล์มกันรอยหลายครั้งแล้วเจ๊ง ต้องเอาไปที่ร้านทำแทน แต่ทาง HISHIELD บอกแบบกระจกติดง่ายมาก อ๊ะ ก็ลองดู

เริ่มจากเช็ดจอก่อนด้วยแอลกอฮอล์

เช็ดให้สะอาด หน้าจอใสวิ้งเลย

 

แกะแผ่นพลาสติกออกมา แล้วก็แปะกระจกไปที่จอ

สิ่งที่เกิดขึ้นคือ แผ่นกระจกมันดูดเข้ากับหน้าจอแบบปรื๊ดดดด เลย คือพวกฟองอากาศที่มีอยู่ด้านในมันถูกไล่ไปด้านนอกเอง แปะปุ๊บ ใช้ได้ปั๊บเลย อันนี้ดีๆ ชอบๆ

ติดเสร็จแล้ว พอลองดูแบบเต็มๆ ก็จะเห็นว่ารุ่น Blue Light Cut Tempered Glass จะติดไม่เต็มจอ อย่างที่หลายคนรู้ว่าจอ iPhone 6 เป็นแนวโค้งที่ขอบ ทำให้ติดได้เฉพาะส่วนสัมผัส

ซูมเข้าไปตรงปุ่ม Home จะเห็นว่าตัวกระจกจะเป็นขอบโค้ง คือพอลากนิ้วผ่านแล้วจะไม่รู้สึกบาดเท่ายี่ห้ออื่น ความบางประมาณ 0.33 มิลลิเมตร

ข้อเสียคือกระจกกันรอยจะมีความหนามากกว่าฟิล์ม ทำให้พอแตะปุ่ม Home จะรู้สึกแปลกๆ ไปซักหน่อย

ทดลองรุ่นต่อมา คือ Full Coverage Tempered Glass รุ่นนี้จะปิดทั้งหมดเต็มหน้าจอ iPhone 6 ยาวจากหน้าจอไปถึงส่วนโค้งของเครื่องเลยทีเดียว ราคารุ่นนี้สูงหน่อยคือ 1,090 บาท (iPhone 6 Plus 1,190 บาท)

แกะกล่องออกมา ก็คล้ายกับรุ่น Blue Light Cut Tempered Glass ต่างกันที่กระจกกันรอยด้านหน้าจอ

ซุมเข้าไปที่กระจกของรุ่นเต็มจอ จะเห็นว่ามีขอบสีดำ และช่องว่างสำหรับกล้อง และเซ็นเซอร์ต่างๆ ให้ด้วย เพราะส่วนขอบทั้งหมดจะถูกปิดลงไปด้วยกระจกดำ

หน้าตากระจกเป็นแบบนี้ จะเห็นว่าเหมือนหน้าจอ iPhone 6 เลย ทั้งจอและขอบ

 

ทดลองติดกระจก ก็ง่ายเช่นเคย ติดปุ๊บ ดูดกับหน้าจอจ๊วบเลย ไม่มีฟองอากาศให้เห็น

พอติดเสร็จแล้ว จะเห็นว่ามองผ่านๆ เราจะไม่รู้เลยว่ามีกระจกติดกันรอยอยู่ เพราะตัวกระจกจะยาวไปถึงขอบโค้งของเครื่อง

ติดฟิล์มด้านหลัง ก็ไม่มีอะไรมาก แปะไปตามปกติ

ลองถือเต็มมือดู พบว่าส่วนตัวชอบแบบเต็มจอมากกว่า คือมันสวย และไม่ได้เห็นฟิล์มอะไรชัดเจนมากนัก

ข้อดีของกระจกกันรอยคือใสมาก แทบจะไม่รู้สึกเลยว่ามีอะไรกั้นระหว่างจอกับนิ้วเรา แถมลื่นด้วย ต่างจากฟิล์มชัดเจน

ความใสคือสะท้อนหน้าจอเห็นกล้องคนถ่ายภาพเลยแหล่ะ

ทดสอบความแข็งแรงด้วยการเอากุญแจมาขูดๆๆๆ ทุบๆๆๆๆ ขีดข่วนให้เต็มที่

ผลก็โอเคดีนะ หน้าจอไม่มีรอยใดๆ ยังคงใสปิ้งเช่นเดิม

เวลาแกะกระจกกันรอยออกมา จะไม่มีรอยกาวติดเลย อันนี้ดีกว่าแบบฟิล์มชัดเจนมาก

นอกจากรุ่นสีดำและสีขาวแล้ว ยังมีรุ่น Colourful Frame จะเป็นแบบติดเต็มจอเหมือนรุ่น Full Coverage แต่มีสีสันให้เลือกมากกว่า ต่างจากรุ่นอื่นตรงที่ผิวจะสะท้อนเหมือนเป็นกระจก ใช้ส่องหน้าสำหรับคุณผู้หญิงได้นะ 555

เรื่องน่าสนใจอื่นๆ

  • แบบเต็มจอและไม่เต็มจอ ผิวสัมผัสและคุณภาพกระจกเหมือนกัน เพราะงั้นเวลาซื้อ ก็แค่เลือกว่าอยากได้ขนาดแบบไหน
  • กระจกป้องกันรอยขีดข่วนด้วยความแข็งแกร่งระดับ 9H สูงสุดในท้องตลาด
  • น้ำหรือคราบมันไม่เกาะติดกระจก เช็ดออกได้ง่ายดี
  • ช่วยป้องกันแสงสีฟ้า ถนอมสายตาได้ดีขึ้น
  • หาซื้อได้ที่ iStudio, iBeat by Copperwired, SPVi, Uficon, ร้าน .Life และโซนมือถือชั้นนำ
:: สรุป ::

ข้อดี
  • ติดตั้งง่าย (มาก) ซื้อมาทำได้ด้วยตัวเองที่บ้าน
  • กระจกมีคุณภาพดี ใส ใช้งานลื่มเหมือนไม่ได้ติดฟิล์ม ขอบมนไม่บาดนิ้ว
  • ความแข็งแรงระดับ 9H อย่างโหด ทดสอบแรงๆ หลายอย่างก็ยังไม่แตก
  • แบบเต็มจอเหมาะกับคนที่ใช้ iPhone 6 มาก ดูเรียบเนียนสวยงาม
ข้อเสีย
  • กระจกหนากว่าการใช้ฟิล์ม เวลาจับที่ขอบจะไม่ชินมือ
  • เครื่องจะหนักขึ้นนิดหน่อย แม้ไม่มากแต่ก็รู้สึกได้
  • ราคาสูงกว่าแบบฟิล์มพอสมควร

สรุปแล้วกระจกนิรภัยกันรอยจาก HISHIELD เป็นกระจกที่มีคุณภาพสูง แข็งแรงทนทานมากๆ ติดตั้งง่าย  สำหรับราคาแบบเต็มจอนั้นค่อนข้างสูง แต่ทั้งนี้ก็มีให้เลือกหลายรุ่นหลายแบบ ตามแต่กำลังทรัพย์และความถนัดในการใช้งานเลย

จากการทดลองใช้งานด้วยตัวเองมาซักพัก ก็ต้องบอกว่าชอบนะ ใช้งานลื่นนิ้วดี ขอบมนไม่บาด ทำให้ไม่รู้สึกต่างจากการใช้หน้าจอเปล่ามากนัก แนะนำให้ลองไปดูที่ร้านตัวแทนจำหน่ายกันได้จ้า

ข้อมูลเพิ่มเติม – HISHIELD Gadget