แชร์ประสบการณ์คุณพ่อมือใหม่ เลี้ยงลูกอยู่บ้านครบ 6 เดือน

วันแรกของการเลี้ยงลูกด้วยตัวเองที่บ้าน

แม้เชอรี่จะลาออกจากงานประจำมาเลี้ยงลูกที่บ้าน ผมเองก็ทำงานที่บ้าน แต่ด้วยความที่ “น้องวชิ” เป็นลูกคนแรกของเรา ทุกอย่างเลยดูใหม่หมด ดูยากไปหมด

มีคนเคยบอกว่า คืนแรกของการพาลูกกลับมาเลี้ยงที่บ้านหลังจากอยู่โรงพยาบาลมาหลายวัน เป็นคืนที่สนุกที่สุดเลย … เพราะจะไม่ได้นอนทั้งคืน ซึ่งก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ ด้วย >___<

“แง๊ๆๆๆๆๆ” น้องวชิตื่นขึ้นมาร้องตอนตี 2
“หม่ามี๊ ลูกร้องไห้ ทำไงดี ?” ผมร้องถาม
“กินนมๆๆๆๆ” เชอรี่เอาลูกมากินนม แต่ลูกก็ยังร้องไม่หยุด
“เอ๊ะ รึว่าร้อน เปิดแอร์ๆๆๆๆ” ผมวิ่งไปเปิดแอร์อย่างว่องไว
“ลูกไม่กินนมเลยค่ะ ทำไงดี ร้องไม่หยุด”

สองพ่อแม่มือใหม่วิ่งวุ่นไปมา งงไปหมด นาทีนั้นเราก็อยากให้ลูกเราสบาย หยุดร้องไห้ มีความสุข แต่ทุกอย่างมันช่างดูตื่นเต้น ทำอะไรไม่ถูก แม่ย่าแม่ยายที่มาช่วยเลี้ยงก็มาช่วยเดากันไปต่างๆ นาๆ จนผ่านไป 15 นาที วชิก็ยังไม่หยุดร้อง

จนมีเสียงดังขึ้น …. “ปู้ดดดดดดดด”
เอ่อ … สรุปคือลูกอึตั้งนานแล้ว แต่ไม่มีใครเปลี่ยนผ้าอ้อมให้ซะงั้น (-__-“)

3 คืนแรก สองพ่อแม่มือใหม่แทบไม่ได้นอนเลย เช้ามาตาโบ๋ ขอบตาดำ หมดพลัง จนได้พาลูกกลับไปตรวจที่โรงพยาบาล ก็โดนคุณหมอสอนมายกใหญ่ จนเราก็ทำการบ้านหนักขึ้น เริ่มเข้าใจลูกมากขึ้นเรื่อยๆ

ความสุขที่คุณตื่นได้

ผมเป็นคนขี้เซา นอนตื่นสาย เวลาตื่นโดยปกติคือเที่ยงถึงบ่าย เพราะชอบทำงานตอนดึก (มาก) และโดยอาชีพฟรีแลนซ์ ก็ไม่ต้องไปทำงานแต่เช้า ใครมาปลุกผมให้ตื่นก่อนเที่ยงได้คือเรื่องน่ามหัศจรรย์มาก

แต่แล้วคนๆ นั้นก็มีอยู่จริง นั่นคือ “น้องวชิ” นั่นเอง

ผมจำได้เลยว่าเช้าวันนึง หลังจากที่ทำงานจนดึกดื่นและกำลังหลับฝันดี ก็มีเสียงร้องแว๊ๆ ออกมาเวลา 7 โมงตรง ด้วยความงัวเงีย บวกกับยังไม่เคยชินกับการมีลูก ผมกำลังจะโวยวายบอกเสียงอะไรเนี่ยหนวกหูจริง … แต่ไม่ทันได้อ้าปาก ทันทีที่ลืมตามอง ลูกก็หันมายิ้มให้

โอ้โห นาทีนั้น เหมือนโลกหยุดนิ่ง คล้ายนาทีแรกที่ตกหลุมรักใครสักคน แต่นี่เป็นเด็ก และเป็นลูกของตัวเอง

บ่ายวันนั้นผมต้องขับรถออกมางานข้างนอก เป็นครั้งแรกที่ต้องห่างลูก หลังจากที่ทั้งคอยอุ้มดูแลมานานกว่าสัปดาห์ หลังจากที่ขับขึ้นทางด่วนไปไม่นาน อยู่ดีๆ ผมก็มีความคิดแว๊บเข้ามาในหัว …

“คิดถึงลูกว่ะ” ผมบอกกับตัวเองในใจ เฮ้ย นี่มันไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นความรู้สึกของคนที่เกลียดเด็กมาโดยตลอด แต่นาทีนั้นอยากกลับรถไปอยู่บ้านไวๆ เมื่อไหร่จะจบงานนี้ซะทีนะ

ตอนนี้ผมตกหลุมรักลูกชายตัวเองเข้าแล้วสิ >__<

พ่อบ้านใจกล้า

ผมเป็นพ่อบ้านที่แย่มาก รีดผ้าไม่เคยเรียบ ซักผ้าไม่รู้จักแยกผ้าสีผ้าขาว ถูบ้านไม่เคยสะอาด
แต่ผมเลี้ยงลูกได้ และน่าจะเลี้ยงลูกได้ดีด้วยนะขอบอก

งานแรกที่ผมช่วยเลี้ยงลูกเลยคือการอุ้มครับ เนื่องจากน้องวชิเป็นเด็กนอนยากเล็กน้อย ถ้ากินนมแล้วไม่นอน ก็เป็นหน้าที่ป่าปี๊ใช้พลังอุ้มเดินขึ้นเดินลงบันได

ถึงแม้จะเป็นงานง่ายๆ แต่ก็ใช้พลังมากกว่าที่คิด คือต้องเดินขึ้นลงบันไดหนีไฟที่คอนโด ร้องเพลงที่น้องวชิชอบ ซึ่งดันชอบเพลงจีน (เกิดจากอาม่าชอบร้องเพลงจีนให้หลานฟัง) ทำให้บางคืนเวลาคนในคอนโดกลับบ้านดึก ก็จะได้ยินเสียงเพลงจีนดังเบาๆ มาจากทางหนีไฟ

ถ้าโชคดีก็จะได้เจอผีพ่อบ้านอุ้มเด็ก ขอบตาดำปี๋เดินไปเดินมา เหอๆๆๆๆๆ

ความภูมิใจของการอุ้มลูกนอน คือเวลาที่ลูกหลับคาไหล่ของเรา แล้วพาลูกไปนอนที่เตียง ภาพที่มองเห็นเด็กน้อยนอนหลับปุ๋ยสบายใจ เราก็มีความสุขไปด้วยอย่างประหลาด

หลังจากที่ฝึกอุ้มเด็กแล้ว ก็เริ่มสนุกได้ฝึกงานเลี้ยงลูกอื่นๆ อีกหลายอย่างเลย ไม่ว่าจะเป็น

  • ให้นมจากขวด : งานที่พ่อบ้านควรทำที่สุด เพราะคุณแม่จะได้พักบ้างจากการให้นมมาทั้งวัน
  • อาบน้ำ : โห อันนี้ช่วงแรกกลัวมาก แต่พอได้ลองอาบน้ำลูกดูครั้งแรกแล้ว ครั้งต่อๆ ไปก็ง่ายมากเลย มือของพ่อใหญ่กว่าแม่ทำให้อุ้มลูกได้ง่ายกว่าด้วย
  • อ่านนิทานก่อนนอน : ช่วงดึกเป็นช่วงที่ผมอยากให้แฟนได้พักบ้าง ก็เลยจะพยายามเหมาการเลี้ยงลูกรอบดึกมาให้มากที่สุด แต่ดึกแล้วเล่นมากไม่ได้ ก็ต้องอ่านนิทานให้ฟังแทน
  • ใส่เป้อุ้ม เวลาออกไปข้างนอกบ้าน
  • พาไปเล่นน้ำ น้องวชิชอบเล่นน้ำมากๆ
ผมพบว่าการช่วยเลี้ยงลูกเป็นงานที่สนุกมากเลยนะ ยิ่งเราอยู่กับลูกนานเท่าไหร่ ลูกยิ่งชอบเล่นกับเรามากขึ้นเท่านั้น
เลยกลายเป็นว่าสิ่งที่ผมช่วยเลี้ยงลูกได้ดีที่สุด คือการ “เล่นกับลูก” นี่แหล่ะ เวลาว่างๆ ก็หาท่าประหลาดๆ มาเล่นกับลูก เอาของเล่นแปลกๆ มาทำท่าแปลกๆ 
เด็กผู้ชายชอบเล่นอะไรไม่ธรรมดาอยู่แล้ว ก็สนุกทั้งพ่อทั้งลูกเลย บางทีเล่นเพลินไม่ทำการทำงานกันเลยล่ะทีนี้

โลกของลูกอยู่กับเราไม่นาน ใช้เวลาให้คุ้มค่า

มีคนเคยบอกผมว่า เด็กจะอยู่กับพ่อแม่แค่ถึงอายุ 10 ขวบเท่านั้น หลังจากนั้นเขาก็จะมีชีวิตของตัวเอง เริ่มอยู่กับเพื่อน มีโลกส่วนตัว ซึ่งไม่อยากให้พ่อแม่เข้ามายุ่งเกี่ยว
ย้อนกลับมาดูตัวเองตอนเป็นวัยรุ่น ก็คงจะจริงนะ สมัยผมก็ติดเพื่อน มากกว่าพ่อแม่เยอะ เพราะงั้นถ้าจะนับว่าตอนนี้เป็นการนับถอยหลังของการใช้เวลากับลูกก็ใช่
ผมไม่เสียดายเวลาเลย ที่บางครั้งต้องยกเลิกงาน เพราะอยากอยู่บ้านดูแลลูกมากกว่า
เวลา 6 เดือนที่ผ่านมา ผมใช้เวลากว่า 70% อยู่กับลูก ยิ่งอยู่ด้วยกันก็ยิ่งผูกพันธ์ ตื่นเต้นทุกครั้งที่เห็นลูกมีพัฒนาการใหม่ๆ รอดูน้องวชิตัวน้อยเติบโตต่อไปเรื่อยๆ
สุดท้ายผมก็ได้เรียนรู้ว่า … การเลี้ยงลูก “ไม่ใช่หน้าที่” ครับ แต่เป็นความรักที่เราควรมอบให้ลูก ไม่ว่าเราจะเป็นคุณแม่ หรือคุณพ่อก็ตาม

อ่านเพิ่มเติม