พ่อแม่อย่าไปว่าวัยรุ่นเรื่องไปตามดารานักร้อง เพราะสมัยเราก็ไม่ต่างกัน

วันนี้กระแส Social ที่ฮือฮากันมากก็คงหนีไม่พ้นการมาของ EXO ศิลปินเกาหลีที่วัยรุ่นไทยจำนวนมากชื่นชอบ และก็เป็นเช่นเดิมทุกครั้ง ที่จะมีพ่อแม่ ผู้ปกครอง หรือผู้ใหญ่ที่แสนจะหวังดีออกมาให้ความเห็นในแบบเดิมๆ

“ไร้สาระ”, “วันๆ ตามแต่ดารา”, “น่าจะเอาเวลาไปทำอย่างอื่น”

ส่วนตัวผมอยู่บนโลกใบนี้มาสามสิบกว่าปีแล้ว จำความได้ว่า ตั้งแต่ตอนยังเป็นเด็ก เห็นพี่ๆ ไปตามกรี๊ดดารา ตามกรี๊ดศิลปิน พ่อแม่ผมก็บ่น “ไร้สาระ”, “วันๆ เอาแต่ตามดารา” ไม่ต่างกัน

พอมาวันที่ตัวเราเองได้เป็นวัยรุ่นบ้าง แน่นอนชีวิตวัยรุ่นมันจะมีอะไรมากไปกว่า เรียน, สอบ, คบเพื่อน, ดูทีวี, เที่ยว และชื่นชอบศิลปินดาราในดวงใจ

จำได้ว่าตัวเองก็เคยไปตามต้อนรับนักร้องที่ชอบถึงสนามบิน, ต่อคิวเป็นชั่วโมงๆ เพื่อซื้อบัตรคอนเสิร์ต, นั่งตากแดดตากลม เพื่อรอเข้าไป Meet & Greet, เคยแม้แต่ไปนอนค้างหน้าโรงแรม เพื่อให้ได้เจอศิลปินคนนั้นเดินออกมาผ่านประตูไปแว๊บเดียว

แต่ไม่น่าเชื่อว่ายังจำวินาทีที่แค่ได้เห็นดาราคนนั้นเดินผ่านเราไป แค่แว๊บเดียว หัวใจมันพองโต ความสุขมันเปี่ยมล้น สิ่งที่เรารอคอย แม้จะเพียงแค่เล็กน้อย แค่มันคือเรื่องสำคัญมากๆ ในตอนนั้น

แน่นอนว่ากลับมาบ้าน ก็พบกับพ่อแม่ ที่บ่นด้วยประโยคเดิมๆ ว่าพวกเราไร้สาระ ทำไมพวกเราไปเอาเวลาไปเรียนหนังสือ ชวนกันไปทำอะไรที่มีประโยชน์ดีกว่าไหม

หลายปีผ่านไป เลยช่วงเวลาแห่งการเป็นวัยรุ่นมาแล้ว ประโยคเหล่านี้ก็ยังวนเวียนอยู่เรื่อยๆ ทุกครั้งที่มีข่าววัยรุ่นตามกรี๊ดดารานักร้อง ตามศิลปินที่ชื่นชอบแบบมืดฟ้ามัวดิน

ชีวิตวัยรุ่นมีได้ครั้งเดียว ให้เอาแต่เรียนหนังสือ ชีวิตหมดสีสันไปแล้ว 70%

—————————————————————————————————————-

ครั้งนึง ผมเคยนั่งกินเบียร์กับพ่อ ซึ่งเราก็พูดคุยกันตามปกติ ปรากฏว่ามีข่าวขึ้นมาที่หน้าจอทีวี เรื่องวัยรุ่นไทยไปตามรอกรี๊ดนักร้องเกาหลีที่สนามบิน

“เฮ้อ … วัยรุ่นสมัยนี้” พ่อผมบ่นขึ้นเรื่องตามระเบียบ

ผมหยุดนิ่งไปนิดนึง ระหว่างที่กำลังดูข่าวบนหน้าจอทีวี อย่างนึงเพราะรู้สึกเหมือนเห็นตัวเองเมื่อสิบปีก่อนในภาพนั้นบนทีวี ผมนั่งรอจนข่าวจบไป แล้วก็เริ่มเอ่ยปากถาม

“สมัยป๊า มีนักร้องคนไหนดังๆ แบบที่วัยรุ่นทั้งประเทศต้องคอยตามบ้างไหมครับ ?”
“โอ้ย มีเยอะนะ สมัยนั้นก็มีทั้งนักร้องไทย นักร้องฝรั่ง” ป๊าตอบ
“แล้วป๊าเคยไปตามดูคอนเสิร์ตบ้างไหม วัยรุ่นสมัยนั้นเค้าตามดารากันยังไง” ผมเริ่มสนุก
“สมัยป๊าเรียนนี่สนุกเลยแหล่ะ มีทุกรูปแบบ หนีเรียนไปดู ต่อคิวยาวมากเลยนะกว่าจะได้บัตรคอนเสิร์ต แพงด้วย ตังค์ก็ไม่ค่อยจะมีกัน”

—————————————————————————————————————-

หลังจากนั้นป๊าก็เล่าชีวิตสมัยวัยรุ่นให้ฟัง ซึ่งผมว่าก็สุดกับความเป็นวัยรุ่น ไม่แพ้สมัยที่เราเป็นวัยรุ่นเหมือนกันเลยแฮะ

ผมก็เริ่มถามกลับว่า ในเมื่อสมัยวัยรุ่นป๊าเองก็เคยตามดารา สมัยผมก็ตามดารา แล้วทำไมเด็กสมัยนี้จะทำแบบสมัยเราบ้างไม่ได้ ?

“มันไม่เหมือนกันน่ะสิ … สมัยก่อนมันไม่มีหรอก มาตากแดดรอกันขนาดนี้ ต่อคิวซื้อตั๋วข้ามวัน” ป๊าเริ่มให้ความเห็น

แต่หลังจากพูดคุยกันไปซักพัก ผมก็เลยลองสรุปให้ป๊าฟังว่า จริงๆ แล้วชีวิตวัยรุ่นทุกยุคทุกสมัย ก็ไม่ได้ต่างอะไรกันหรอก เรายังรักเพื่อน ชื่นชอบศิลปินดารานักร้อง ทำอะไรสนุกๆ ใช้ชีวิตอะไรเยอะแยะที่มากไปกว่าการเรียนหนังสือ และเราก็ชื่นชอบกับการใช้ชีวิตแบบไร้สาระ(บ้าง)

ซึ่งป๊าก็หยุดคิดซักพักแล้วก็บอกว่า เออ มันก็จริงนะ ถ้ามาคิดดีๆ มันก็ไม่ได้ต่างกัน ใจความหลักของความเป็นวัยรุ่นมันก็มีอยู่แค่นี้แหล่ะ จะมีก็เพียงรูปแบบการแสดงออกที่เปลี่ยนไป … ก็แค่นั้น

—————————————————————————————————————-

สุดท้ายผมเลยตั้งใจเอาไว้ว่า ถ้าวันนึงลูกเราโตขึ้นมาเป็นวัยรุ่น แล้วเดินมาบอกว่า วันนี้อยากไปรอรับศิลปินที่สนามบิน, ไปต่อคิวซื้อบัตรคอนเสิร์ต, ไปซ้อมเต้นกับเพื่อนๆ หรืออะไรอีกหลายอย่างที่วัยรุ่นสมัยนั้นน่าจะทำกัน

ผมจะไม่ห้าม และจะไม่บ่นเลย ออกไปทางสนับสนุนด้วยซ้ำ เพราะอย่างน้อยเค้าก็ไม่ได้ไปทำอะไรที่ผิดกฏหมาย ไปทำอะไรไม่ดี อย่างน้อยเค้าจะได้มีเพื่อน ได้มีความฝัน ได้รู้จักการรอ ได้รู้จักการอดทน และได้รับรู้อะไรในแบบที่พ่อแม่ก็เคยผ่านจุดนั้นมาแล้ว

เพราะสุดท้ายแล้ว สมัยที่เราเป็นวัยรุ่น ก็ไม่ต่างอะไรกับวัยรุ่นสมัยนี้หรอกครับ
ทุกอย่างเหมือนเดิม แค่วิธีการแสดงออกมันเปลี่ยนไปก็แค่นั้น

Note: ภาพจาก SpringNews http://www.springnews.co.th/entertain/100273