รีวิว Office for Mac 2011 – เร็ว เวิร์ค เจ๋ง

ยุคนี้คงไม่มีใครที่ไม่รู้จักโปรแกรม Microsoft Office กันอีกแล้ว แต่ก็มีหลายคนที่ไม่ทราบว่ามีเวอร์ชันสำหรับทำงานบนแมคด้วย โดยเมื่อไม่นานมานี้ไมโครซอฟท์ได้ออก Office for Mac 2011 ออกมาหลังจากเวอร์ชันก่อนหน้าคือ Office for Mac 2008 ถึง 3 ปีด้วยกัน

มาปีนี้ไมโครซอฟท์ทำการบ้านมาเป็นอย่างดี ทั้งการเพิ่มความเร็ว ความสามารถใหม่ๆ หลายอย่างที่แม้แต่ผู้ใช้วินโดวส์ยังไม่มีให้ใช้ และมีความเป็นแมคอย่างเต็มภาคภูมิ จนหลายสำนักได้ให้คะแนนรีวิวว่าเป็นชุดโปรแกรมออฟฟิศที่ “ยอดเยี่ยม” กันเลยทีเดียว

อดีตอันแสนเจ็บปวด

ผมเป็นคนนึงที่มี Office for Mac 2008 อยู่ในเครื่อง (ถูกลิขสิทธิ์) แต่แทบจะไม่เคยได้ใช้ ด้วยเหตุผลหลักๆ คือ

  • ทำงานช้ามากตั้งแต่เปิดโปรแกรม ยันปิดโปรแกรม
  • แฮงก์่บ่อย
  • ขาดฟีเจอร์หลายอย่างที่มีในเวอร์ชันวินโดวส์
  • ที่สำคัญเลยคือขาดความเข้ากันได้ของเอกสาร (Compatible) อย่างแรง เปิดไฟล์ที่มาจากวินโดวส์แล้วเพี้ยนกระจาย ส่งไฟล์ให้ใครก็เปิดอ่านไม่ค่อยได้ เรียกได้ว่าทำงานร่วมกับคนอื่นยากมาก

ไม่ใช่แค่ผมแต่ก็พบว่าเพื่อนๆ หลายคนก็เจอปัญหาเดียวกัน โดยทางแก้ที่ดีที่สุด คือไปใช้ Google Doc แทน (ซะงั้น)

Office for Mac 2008 ช้า เพี้ยนกระจายและอ่านไม่ออก

เร็วขึ้น, เป็นแมคมากขึ้น, ฟีเจอร์ใหม่ 

สิ่งที่ดีที่สุดเมื่อคุณได้ลองมาใช้ Office for Mac 2011 คือความเร็ว ที่เร็วขึ้นมากจนไม่น่าเชื่อ เร็วกว่าโปรแกรมของแอปเปิลเองอย่าง Pages หรือ Numbers ผมพบว่าความเร็วในการเปิด Word นั้นทำได้เร็วกว่าเปิดโปรแกรมอย่าง Safari หรือแม้แต่ iTunes เสียอีก

ในมุมฟีเจอร์หลายอย่างทำได้เทียบเท่ากับเวอร์ชันวินโดวส์ ไม่ว่าจะเป็นการใช้เมนูแบบ Ribbon, การใช้ร่วมกับ Visual Basic Automation ได้, จัดเก็บไฟล์ไปที่ SkyDrive, Template มากขึ้น, มี Full Screen mode และการมาของ Outlook บนแมคนั้นก็น่าประทับใจมาก

ฟีเจอร์เด็ดอย่างหนึ่งที่ไม่มีในวินโดวส์ (ในตอนนี้) แต่มีในแมคคือ 3-D Dynamic Reordering ซึ่งมีประโยชน์มากสำหรับใครที่ต้องการเรียงลำดับ Object ต่างๆ อยู่บ่อยๆ

การติดตั้ง

สำหรับการติดตั้งนั้นก็ไม่มีอะไรมาก ใช้เมนูที่เข้าใจง่ายไม่ซับซ้อน แต่ที่น่าสังเกตุคือหากเครื่องมี Office for Mac เวอร์ชันเก่าอยู่แล้ว โปรแกรมจะไม่ได้ไปทับโปรแกรมชุดเดิม แต่จะลงแยกเป็นอีกโฟลเดอร์นึง แต่หลังจากติดตั้งเสร็จแล้วก็จะมีให้เลือกว่าเราจะ import ค่า setting ต่างจากเวอร์ชันที่มีอยู่แล้วมาหรือไม่

ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีก็เสร็จเรียบร้อย โปรแกรมทั้งชุดมีขนาดประมาณ 1.13GB

เมื่อติดตั้งแล้วเราจะได้โปรแกรม Word, Excel, PowerPoint, Outlook และโปรแกรมแถมอย่าง Remote Desktop, Silverlight, Document Connection แถมมาให้ด้วย

ติดตั้งโปรแกรม Office แต่ทำไมต้องให้ปิด Chrome ด้วยครับเนี่ย ไม่เข้าใจ

ลงมาแยกกันเลย ดีที่ผมรีวิวง่าย แต่คนใช้จะงงรึเปล่านะ

แผ่นที่ทางไมโครซอฟท์ให้มาเป็น Trial ครับ ถ้าแถม Key มาด้วยหลังรีวิวจะขอบคุณมาก 😉

ติดตั้งเสร็จจะให้เลือก Import ข้อมูลได้

มี Remote Desktop มาให้ด้วยนะ

Word

โปรแกรมยอดฮิตที่สุดในชุดโปรแกรมออฟฟิศด้วยกัน นอกจากนั้นยังเป็นโปรแกรมที่มีเมนุให้เลือกเยอะที่สุดด้วย หลายคนอาจจะหาว่าบ้า แต่ก็ขอบอกว่าผมชอบ Ribbon มาก เมื่อเทียบกับหน้าต่างอันน่าสยดสยองของ Word เวอร์ชันก่อนๆ

แต่การมาของ Ribbon ก็แลกมาด้วยการต้องฝึกใช้งานเสียหน่อยกว่าจะเคยชิน

ความสุดยอดของ Word for Mac 2008
การใช้ Ribbon เก็บเมนูทุกอย่างไว้ด้านบน

Template ที่แถมมาด้วยในเวอร์ชันนี้มีเยอะเหลือเฟือ ทั้งรูปแบบและสีสันมีความเป็นมืออาชีพมาก ไม่แพ้ Template ของแอปเปิลใน Pages เลยทีเดียว แต่ที่ดูจะเหนือกว่าคือใน 1 Template สามารถเลือกได้หลายเฉดสี หลายฟอนต์ มีหน้าจอพรีวิวให้ดูก่อนด้วย

ไม่รู้ว่าไม่โครซอฟท์จะรู้ใจแอปเปิลรึเปล่า ถึงได้ทำ Word ให้เปิดแบบ Full Screen ได้ด้วย สงสัยว่าจะทำไว้รอ OSX Lion

โหมด Full Screen

ส่วนที่สำคัญและมีปัญหาที่สุดของ Word คือความเข้ากันได้ของเอกสาร เรียกง่ายๆ ว่าพิมพ์รายงานส่งอาจารย์แล้วไม่เพี้ยน แชร์เอกสารกับเพื่อนๆ แล้วไม่โดนบ่น

จากที่ทดสอบดูแล้ว ความเข้ากันได้ของเอกสารในเวอร์ชันนี้มีสูงมากถ้าเอกสารเป็นภาษาอังกฤษ ไม่ว่าเอกสารจะวางหน้าซับซ้อนขนาดไหน ผมลองนำไฟล์จาก Word 2010 ในวินโดวส์มาเปิดในแมคดูแล้วแทบน้ำตาไหล เพราะไม่พบความเพี้ยนเลย

แต่ตรงข้าม หากเปิดเอกสารภาษาไทย ก็พบความเพี้ยนกระจายจนแทบน้ำตาไหลเช่นกัน นั่นคงเป็นเพราะปัญหาการตัดคำภาษาไทยนั่นเอง ซึ่งก็น่าแปลกที่ปัญหานี้กลับไม่เจอในโปรแกรมอย่าง Pages ตามรูปข้างล่าง

อ่านภาษาไทยได้ แต่ ..

ซ้ายคือ Word for Mac ขวาคือ Pages

ซึ่งตรงนี้ได้ฝากทาง Microsoft Thailand ให้ไปติดตามดูแล้วครับ ได้ผลอย่างไรคงต้องรอติดตาม (หรือต้องรอเวอร์ชันใหม่อีก 3 ปี ?)

PowerPoint
เช่นเดียวกับโปรแกรมอื่นๆ ที่ฟีเจอร์ส่วนใหญ่ในเวอร์ชันวินโดวส์นั้นก็มาอยู่ใน PowerPoint สำหรับแมคแทบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น Ribbon, Marcro, การแทรกวิดีโอและเพลงที่ทำให้ดีขึ้น นอกจากนี้เรายังสามารถเล่นและแชร์สไลด์ทางเว็บได้อีกด้วย
ภาษาไทย ทำภาพสะท้อน ตกแต่งรูปได้จากในโปรแกรม

Photo Editing ที่ให้มาใน PowerPoint ก็ทำงานได้ดี ไม่ว่าจะเปลี่ยนโทนสีของรูป ปรับขาวดำ ความคมชัด หรือแม้แต่จะใส่ฟิวเตอร์เข้าไปอย่างทำภาพเบลอ ภาพวาดลายดินสอ แม้คุณภาพจะไม่เทียบ Photoshop แต่ก็ออกมาดูดีทีเดียว
แต่ฟีเจอร์ที่ดูจะเป็นที่สนใจที่สุดคงหนีไม่พ้น 3-D Dynamic Reordering ที่มีในเวอร์ชันแมคเท่านั้น โดยเมื่อเรากดปุ่ม Reorder Object หน้าจอจะแสดงการจัดเรียง object ต่างๆ ในรูปแบบสามมิติ ทำให้เราเห็นภาพและจัดตำแหน่งหน้าหลังได้สะดวกเอามากๆ เลย
ภาพซ้อนกันหลาย Layer
Dynamic Reordering สวรรค์สำหรับคนจัด Layout

คงเป็นเรื่องบาปมาก ถ้าจะรีวิว PowerPoint บนแมคโดยไม่เทียบกับ Keynote โปรแกรมที่คนทำพรีเซนต์หลายคนยกขึ้นหิ้งว่าดีที่สุดตอนนี้
ในฐานะที่เป็นคนใช้ทั้ง Keynote และ PowerPoint อย่างหนักหน่วงคนนึง ในแง่ความง่ายในการใช้งานและฟีเจอร์ที่มีนั้น อาจจะมีบางอย่างที่เด่นคนละด้านแต่ PowerPoint ทำได้เสมอกับ Keynote แล้วในตอนนี้ แต่ในด้านคุณภาพ ความเนียนที่ออกมา ต้องยอมรับว่า Keynote ยังชนะ PowerPoint อยู่พอสมควร

Excel

ความใช้ง่ายเป็นจุดเด่นของ Excel อยู่แล้ว การมาของ Ribbon ก็ทำให้ทุกอย่างง่ายขึ้นไปอีก การดูและแก้ไขสูตรคำนวณต่างๆ แสดงให้เห็นชัดเจนขึ้น ฟีเจอร์อย่าง “Sparkline” ที่มีใน Excel 2010 ก็ดูดีทีเดียว

สำหรับมืออาชีพที่ใช้ Excel เป็นประจำแล้ว ความเร็วของ Excel เวอร์ชันนี้ก็น่าประทับใจมาก เรียกได้ว่าเร็วเทียบเท่า Excel บนวินโดวส์เลยทีเดียว รวมทั้งการใช้ VBA เข้ามาร่วมด้วยแล้วการทำงานหลายอย่างก็จะเป็น Automate มากขึ้น

การเพิ่มปุ่ม Search ที่ขวาบนของโปรแกรมช่วยให้หาข้อความในทุก worksheet ได้ก็มีประโยชน์มาก ทำงานได้เร็วเหมือนกับ spotlight ในโปรแกรมอื่นๆ ของแมค



Outlook

นับว่าไมโครซอฟท์ทำถูกแล้วที่เอาโปรแกรมเจ้าปัญหาอย่าง Entourage บนแมคออกแล้วใช้ Outlook แทน คือนอกจากจะเร็วกว่า ใช้งานง่ายกว่า มีประสิทธิภาพกว่าแล้ว สิ่งที่ดีมากสำหรับ Outlook 2011 นี้คือการเก็บไฟล์อีเมล์แต่ละตัวแยกจากกัน แทนที่จะเป็นไฟล์รวมใหญ่ไฟล์เดียวแบบที่เก็บบนวินโดวส์ ทำให้เราสามารถใช้ Time Machine ดูอีเมล์ย้อนหลังแยกจากกันได้ หรือแม้แต่ Spotlight ก็หาเมล์ได้เร็วขึ้นด้วย

หน้าตา Outlook for Mac

สามารถดูอีเมล์แบบรวม Conversation ได้

ความสามารถอื่นๆ ก็ไม่ต่างจากในวินโดวส์มากนัก คือการรวมอีเมล์ที่ตอบกันไปมาเป็นกลุ่มได้ (Conversation), ใช้ Inbox เดียวกับหลาย email account ได้, Contact,  Notes, Task, Calendar

Outlook สามารถ sync ข้อมูลต่างๆ กับโปรแกรมบนแมคอย่าง Address Book, Apple Mail ส่วน iCal นั้นยังไม่สามารถ sync ได้ในตอนนี้แต่ไมโครซอฟท์แจ้งว่าจะออกอัพเดตมาแก้ภายหลัง

ข้อเสียอีกอย่างคือใช้กับ Exchange 2007 ขึ้นไปเท่านั้น

สิ่งที่น่าสนใจคือ แมคต่างจากวินโดวส์เพราะผู้ใช้ส่วนใหญ่จะใช้โปรแกรม Address Book, iCal, Apple Mail ที่มีมาในแมคทุกเครื่องอยู่แล้ว การมาของ Outlook ทำให้เรามีโปรแกรมจัดการตารางนัดหมาย, รายชื่อผู้ติดต่อและอีเมล์ถึง 2 โปรแกรม คงต้องรอดูไปยาวๆ ว่าสุดท้ายแล้วผู้ใช้จะเลือกใช้งานในรูปแบบใด

Office for Mac 2011 vs iWork ’09

แอปเปิลได้ทำการรวมโปรแกรม Pages, Numbers และ Keynote เป็นโปรแกรมชุดเดียวกันแล้วขายภายใต้ชื่อ iWork เพื่อมาสู้กับโปรแกรมชุด Microsoft Office โดยตรง แต่ก็มีหลายคนแซวว่าการซื้อ iWork ก็คือการซื้อ Keynote ที่แถม Pages กับ Numbers มาให้ด้วยตะหาก

ถ้าเทียบกันตรงๆ แล้ว ทั้งสองชุดโปรแกรมก็มีข้อดีข้อด้อยที่แตกต่างกันออกไป

  • Word และ Excel มีฟีเจอร์ที่ชนะ Pages และ Numbers แบบขาดลอยไม่เห็นฝุ่น
  • แต่สำหรับผู้ใช้ทั่วไปแล้ว Pages กับ Numbers ก็เป็นตัวเลือกที่ใช้งานง่าย สวยงามดี และคุณภาพโอเค
  • Keynote ยังนำ PowerPoint อยู่นิดๆ
  • รูปแบบของ Template โดยรวมแล้ว iWork สวยกว่า
  • Outlook ใช้งานง่าย เร็ว และฟีเจอร์เยอะกว่า Apple Mail อยู่พอสมควร
  • iWork ราคาเริ่มที่ 3,190 บาท ถูกกว่า Office for Mac ที่ราคา 4,790 บาทพอสมควร

สรุป

ไมโครซอฟท์ในช่วงหลังมานี้ ถือว่าเป็นช่วงท๊อปฟอร์มมาก ตั้งแต่ Windows 7, Microsoft Office 2010 และ Office for Mac 2011 ก็เป็นผลงานระดับยอดเยี่ยมเช่นเดียวกัน

ทั้งความเร็วที่เพิ่มขึ้นมากอย่างรู้สึกได้, ความเข้ากันได้ของเอกสาร, การมาของ Outlook, ความเป็นแมคที่มากขึ้น รวมถึงราคาที่ถูกลง ทำให้ Office for Mac 2011 เป็นโปรแกรมในระดับ “ยอดเยี่ยม” และเป็นก้าวสำคัญสำหรับโปรแกรมชุดนี้บนแพลตฟอร์มอันดับสองของโลกอย่างแมคอินทอร์ช

ข้อดี

  • เร็ว (มาก)
  • ใช้งานง่าย จำนวนฟีเจอร์เทียบเท่าเวอร์ชันวินโดวส์
  • Outlook เป็นโปรแกรมอีเมล์บนแมคที่ดีที่สุดในตอนนี้
  • ราคาถูกลง
  • ทำให้ข้ออ้างที่ไม่ซื้อแมคเพราะอยากใช้ Microsoft Office หมดไป

ข้อเสีย

  • ตัดคำภาษาไทยยังคงมีปัญหาอยู่
  • Ribbon ทำให้ต้องเรียนรู้การใช้งานใหม่ในช่วงแรก
  • Outlook ยังมีปัญหากับ iCal และต้องใช้ Exchange 2007 เท่านั้น
ตารางเปรียบเทียบ Office for Mac แต่ละรุ่น ซึ่งผมเองก็เพิ่งรู้ว่า Office 2004 นั้นมีแค่ฟีเจอร์เดียว (แซว)

ราคา
Home and Student Edition
  • ประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint
  • ราคา 4,790 บาท (1 ไลเซนส์) และ 5,790 บาท (3 ไลเซนส์แบบ Family Pack)
Home and Business Edition
  • ประกอบด้วย Word, Excel, PowerPoint, Outlook
  • ราคา 7,790 บาท (1 ไลเซนส์) และ 9,790 บาท (2 ไลเซนส์แบบ multipack)

ขอขอบคุณไมโครซอฟท์ประเทศไทย ที่เอื้อเฟื้อโปรแกรมมาให้ทดสอบด้วยครับ