[MCWedding] เมื่อต้องไปสู่ขอสาว

ช่วงนี้ผมอยู่ในภาวะที่ต้องพบกับประสบการณ์ครั้งแรกและครั้งเดียวในชีวิตอยู่บ่อยครับ เพราะงั้นไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็คงจะเขียนเก็บเอาไว้เยอะหน่อย

อย่างที่รู้กันว่าผมกับ @CherryJaja กำลังจะแต่งงานกัน (ขอแต่งงาน, ประกาศวันแต่ง, FAQ วันแต่ง) แต่ทั้งหมดนั่นก็เป็นการจัดการโดยเราสองคนเอง ไม่ได้มีผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายเข้ามาข้องเกี่ยวแต่อย่างใด

ถึงแม้ว่าพ่อแม่ของเราจะรู้ความเคลื่อนไหวอยู่ตลอด และก็ไปมาหาสู่กันเป็นระยะตามปกติ แต่ตามธรรมเนียมแล้วมันก็ควรจะมีการไปพูดจากันอย่างเป็นทางการ หรือที่หลายคนเรียกกันว่า “การสู่ขอ

โดยตามธรรมเนียมแล้วการสู่ขอก็คือ ..

  • การที่ผู้ใหญ่ฝ่ายชายหรือที่เรียกกันว่า “เถ้าแก่” เป็นธุระให้ในการไปพูดคุยกับพ่อแม่ฝ่ายหญิง โดยมากก็จะเป็นผู้ใหญ่ที่ฝ่ายชายนับถือ แต่สำหรับบ้านผมขอให้พ่อแม่พูดคุยกันเองเลย เน้นความเป็นกันเองและสะดวก
  • คุยอะไรกันบ้าง หลักๆ ก็คือการสู่ขอลูกสาวเขามาแต่งงานกับฝ่ายชาย ซึ่งถ้าจะพูดไปแล้ว วันนี้ก็คือการให้อนุญาตทั้งสองคนแต่งงานกันอย่างเป็นทางการนั่นเอง
  • เรื่องต่อมาก็จะเป็นกำหนดการแต่งงาน, การหมั้นหมาย, สินสอดทองหมั้น, เรือนหอ
    • ซึ่งจริงๆ เรื่องทั้งหมดควรจะมีการตกลงกันไว้นอกรอบก่อนแล้ว วันนี้จึงเป็นเพียงการบอกกล่าวอย่างเป็นทางการเท่านั้น
    • กำหนดงานแต่งงาน คือวันเสาร์ที่ 10 ธันวาคม 2554 ที่ Centara Grand Bangkok ตามที่เคยประกาศไว้ครับ ไม่เปลี่ยนแปลงเพราะจองโรงแรมไปแล้ว
    • กำหนดงานหมั้น (คาดว่า) วันเสาร์ที่ 19 พฤศจิกายน 2554 ที่บ้านฝ่ายหญิง (อ.บ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น)
    • สินสอดทองหมั้น จัดมาตามสมควร
เล่าถึงบรรยากาศในวันสู่ขอนิดนึง
เช้าวันที่ 16 เมษายน ท่านแม่ตื่นตั้งแต่ 7 โมงเช้า ขับรถออกไปข้างนอก พอถามว่าไปไหน ? หันมาตอบว่า “ไปทำผม” (เฮือก … ไม่ตื่นเต้นเลยใช่ไม๊เนี่ยแม่เรา -_-“)
วันนี้ทั้งสองบ้านดูจะตื่นเต้นกันเป็นพิเศษ โดยเฉพาะพ่อๆ แม่ๆ จนเราสองคนต้องโทรหากันเป็นระยะๆ ว่าตอนนี้เป็นยังไง ไปถึงไหนกันแล้วและแอบแซวพ่อแม่ตัวเองกันอยู่เรื่อยๆ
ฝ่ายบ้านผมไปกัน 5 คน มีผม พ่อแม่ พี่สาวและพี่เขย ส่วนฝ่ายหญิงก็อยู่กันทั้งบ้าน ทำกับข้าวเลี้ยงแขกเองด้วย
หลังจากทานข้าวกันเสร็จ คุยกันหัวเราะเฮฮาพอเป็นพิธี ก็ถึงเวลา พ่อแม่ผมก็นั่งบนโซฟาคู่กับพ่อแม่ฝ่ายหญิง ส่วนผมกับเชอรี่ก็นั่งที่พื้น
ตามบทแล้วผมควรจะต้องยิ้มแฉ่งเฉยๆ ไม่ต้องพูดอะไร ท่านพ่อจะโซโล่เองทั้งหมด แต่ปรากฏว่าพอท่านพ่อพูดนำไปได้แป๊บนึง ก็หันมาทางลูกชาย ทำตาใสปิ๊งแล้วบอกว่า “เอ๊า … ขอเลย
อ่ะจ๊ากกกกก .. ขอเขออะไรอ๊ะ คือแบบว่าไม่ได้เตรียมคำพูดอะไรมาเลยครับท่าน จะพูดอะไร พูดยังไง เริ่มยังไง จบแบบไหนก็ไม่รู้อะไรเลย

คือมันดูเหมือนเรื่องไม่น่าจะพูดยากเย็นอะไร แต่การที่จะต้องพูดประโยคที่ไปขอลูกสาวสุดที่รัก จากอ้อมอกพ่อแม่เค้า แล้วทำให้เค้ามั่นใจว่าเราจะดูแลลูกสาวเค้าได้จริง .. ขอบอกว่าโคตรยากกกก สายตาทุกคู่มองมาที่เรา จนดูตัวเล็กหดจิ๋วลงไปถนัดตา > <
ผมนิ่งไป 10 วินาที นิ่งจนทุกคนลุ้นกันเหนื่อย … บอกกับตัวเองว่า เอาวะ ในเมื่อไม่ได้เตรียมตัวอะไรมาเลย ก็ด้นสดไปเลยนี่แหล่ะ และต่อไปนี้คือประโยคขอสาวที่ถอดเทปมาครับ
“ก็ …. เอิ่ม … ก็ …. จริงๆ ก็ … รู้จักเชอรี่มานานแล้วน่ะนะครับ แล้วก็ … เอ่อ …​ อ่า …. รู้สึกว่า … เอ่อ … ก็ … คิดว่าได้เวลาที่เหมาะ ที่ควรจะ …​ เอ่อ …. แต่งงานกัน … ก็อยากจะบอกกับป่าป๊าหม่าม๊าว่า ……………. (นิ่งไปนาน)”
เอ็มจะขอดูแลเชอรี่ไปตลอดชีวิตครับ
พูดจบก็ตามมาด้วยเสียงฮี๊วววววว ของกองเชียร์ทั้งสองฝ่าย
แอบเห็นท่านแม่ของเชอรี่ปาดน้ำตาอยู่หลายรอบ ส่วนพ่อตาก็ยิ้มแย้ม จนเราเองก็รู้สึกดีใจมาก ที่อย่างน้อยก็น่าจะทำให้พ่อแม่ของเค้ามั่นใจในตัวเราได้ ว่าเราจะดูแลลูกสาวเค้าได้จนหายห่วง
จบงานก็ถ่ายรูปกัน เป็นวันอันแสนชื่นมื่น ยิ้มแย้มและมีความสุขมากๆ อีกวันนึงในชีวิตเลยครับ 🙂

ก็ .. เอ่อ .. อ่า .. คือ .. เอ่อ ………

แอบเห็นท่านแม่เชอรี่ปาดน้ำตาอยู่หลายรอบ

“เอ้า … ป๊ายกให้” ป่าป๊าเชอรี่