8 วิธีดูแลคนท้อง สำหรับว่าที่คุณพ่อมือใหม่

สำหรับว่าที่คุณพ่อคุณแม่หลายคนที่กำลังจะมีลูกน้อย เชื่อว่าช่วงเวลา 9 เดือนก่อนจะคลอดนั้น เป็นช่วงเวลาที่สำคัญและก็น่าจดจำไม่ใช่น้อยเลย

ในขณะที่หลายคนเตรียมตัวซื้อของให้ลูก จัดเตรียมบ้าน ดูแลทุกอย่างรอบตัวเพื่อรอรับลูกน้อย แต่ผมกลับพบว่าสิ่งที่สำคัญสุดที่เราควรต้องดูแล คือคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์อยู่ ซึ่งแน่นอนว่าวิธีการดูแลภรรยาของแต่ละคนก็แตกต่างกันไป แต่ก็มีหลายอย่างที่บางคนมองข้าม

เราคือคนที่ใกล้คิดแฟนเรามากที่สุดแล้ว

แน่นอนว่าคนที่ใกล้ชิดว่าที่คุณแม่ที่สุด ก็คือว่าที่คุณพ่อนี่แหล่ะ แต่ก็เน๊อะ ผู้ชายเรา แค่ดูแลตัวเองยังดูแลไม่ค่อยจะได้เลย มาถึงเวลาต้องดูแลคนท้อง มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายซะทีเดียว

สำหรับการดูแลเบสิค เช่น ช่วยยกของหนัก,  ดูแลเรื่องอาหารการกิน เราทุกคนก็น่าจะรู้กันอยู่แล้ว ผมเลยอยากขอแชร์ในบางมุม ที่บางครั้งคุณพ่อมือใหม่อย่างพวกเราก็อาจจะหลงลืมไปก็เป็นได้

ก็เลยขอสรุปออกมาเป็นวิธีดูแลคนท้อง 8 ข้อ ดังนี้เลยจ้า

8. พาไปกินนนนนนน

คนท้องต้องการบำรุงมากกว่าปกติ แน่นอนว่ามีอาหารหลายอย่างที่คนท้องไม่ควรทาน ซึ่งคุณแม่ๆ เองก็คงจะระวังตัวเองเป็นปกติอยู่แล้ว แต่พอต้องงดอาหารหลายอย่าง มันก็กดดันไม่น้อยเหมือนกันนะ

การกินก็เป็นการหาความสุขอย่างนึง ถ้าเรารู้ว่าเค้าทานอะไรได้บ้างไม่ได้บ้าง และรู้ว่าอะไรคือของโปรด จงพาเธอไปซัดให้หมดอย่าให้เหลือ !!

คือพอท้อง บางทีเค้าก็ไม่ค่อยอยากออกไปไหน แต่เชื่อไหมว่าทุกครั้งที่พาเค้าขับรถไปเยาวราช, ร้านอาหารโปรด, ไปนั่งในร้านชิวๆ ยามบ่าย โหย คุณเธอจะฟินมากเป็นพิเศษ

อีกเรื่องคือหลังจากลูกคลอดแล้ว เวลาทานข้าวก็จะน้อยลง กินไม่อร่อยเพราะต้องดูแลลูก ช่วงวันสำคัญๆ เราก็ควรพาเค้าไปทานร้านอาหารบรรยากาศดีๆ บ้าง นอกจากเปลี่ยนอารมณ์แล้ว ยังได้ความมุ้งมิ้งในแบบสามีภรรยาอีกด้วย ^^

7. ไปพบแพทย์ด้วยกันทุกครั้ง

เรื่องสำคัญที่สุดสำหรับคุณพ่อที่ไม่ค่อยจะรู้เรื่องการดูแลเด็ก การดูแลคนท้องแบบพวกเรา คือความไม่รู้นี่แหล่ะ ก็ในเมื่อไม่รู้ ก็ต้องทำให้รู้สิจะได้เข้าใจ

ผมพบว่าการพาแฟนไปพบแพทย์ทุกครั้งด้วยตัวเอง เข้าไปฟังหมอด้วยกัน เรียนรู้ไปด้วยกัน เป็นวิธีง่ายที่สุดแล้วที่เราจะเข้าใจคนท้องให้มากขึ้น

โดนฉีดยา, เจาะเลือด และอะไรอีกก็ไม่รู้ตั้งเยอะ คนท้องต้องการกำลังใจน๊าาาา

“หมอคะ ช่วงนี้ปวดหลังมากเลย ?”
“พวกยาบำรุงนี่กินได้ไหมคะ ?”
“คืนวันก่อนคลอดต้องเตรียมตัวยังไงบ้างคะ ?”

เป็นคำถามที่เชอรี่ถามกับคุณหมอในช่วงที่ฝากครรภ์ ซึ่งตอนที่อยู่บ้านผมเองก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเราจะมีคำถามพวกนี้ แต่พอได้ฟังเราก็เริ่มซึมซับความเป็นแม่ ความลำบากของการตั้งครรภ์มากขึ้นเรื่อยๆ จนเข้าใจกันมากขึ้นนั่นเอง

6. ถ่ายรูปด้วยกันบ่อยๆ

เชื่อผมเถอะครับว่าเวลา 9 เดือนมันผ่านไปไวมากๆ เผลอแป๊บเดียวคุณก็อยู่หน้าห้องคลอดแล้ว ช่วงเวลาของการตั้งครรภ์ก็ถือเป็นสิ่งที่น่าจดจำไม่ใช่น้อยสำหรับชีวิตครอบครัว

อย่าให้เวลาผ่านไป ควรเก็บบันทึก ไม่ว่าจะเป็นภาพ, วิดีโอ แม้แต่การจดบันทึกอย่างบล็อกหรือเขียนเรื่องราวบน Facebook พอได้กลับมาอ่านมันก็เป็นอะไรที่สนุกไม่น้อยทีเดียวนะ

ผมชวนเชอรี่ถ่ายภาพแบบจริงจัง จ้างตากล้องมาถ่ายแบบ เหมือนตอนถ่าย Pre Wedding ก่อนแต่งงานเลย การได้ภาพสวยๆ ก่อนที่จะคลอดลูกน้อยออกมา เก็บไว้ดูเป็นความทรงจำ น่ารักดีออก แค่ถ่าย Selfie กันแบบน่ารักๆ ก็น่าเก็บไว้ดูแล้ว ขอแนะนำเลยครับ 😀

5. พาไปเที่ยวบ้าง

“คนท้อง ไม่ใช่คนป่วย” เป็นประโยคที่ผมจำได้ขึ้นใจ หลังจากที่คุยกับพี่ๆ ว่าไม่กล้าให้เชอรี่ไปโน่นไปนี่ มีอะไรก็กลัวไปหมด

ซึ่งก็มีคุณพ่อหลายคนนะ ที่กลัวมาก จนให้ภรรยาลาออกมานอนอยู่บ้านเฉยๆ หลายเดือนติดกัน

พาไปนอนโรงแรม เตียงนุ่มๆ มันฟินจริงๆ เบ๊ยยย (ในรูปคือผมเอง แป่ว)

คือพอเราถามว่าอยากไปไหนไม๊ ? เค้าก็ตอบแหล่ะว่าไม่ไป กลัวเปลืองตังค์ แต่ยิ่งเราให้เขาอยู่บ้านหรือไปทำงานแล้วก็กลับบ้านเฉยๆ นานเข้า ก็เริ่มเห็นว่ามีความเครียดสะสมไม่ใช่น้อยเลย ซึ่งพอเราได้พาเค้าไปเที่ยว ก็เห็นได้ชัดเลยว่าดูสดชื่นขึ้น เครียดน้อยลงมาก

สุดท้ายผมพาเชอรี่เที่ยวแหลกเลยครับ ไปเที่ยวตั้งแต่หัวหิน, เชียงใหม่, สิงคโปร์ เอาแบบเที่ยวจนนาทีสุดท้ายที่เค้าไม่ให้เที่ยวเลย 5555

4. อย่าบ่น, กัดลิ้นตัวเองไว้, คนท้องถูกเสมอ

ปกติแล้วเชอรี่เป็นคนไม่ขี้บ่นครับ ก็เป็นผู้หญิงน่ารักๆ คนนึง แต่ปรากฏว่าช่วงที่ท้อง 9 เดือน ผมก็พบความเปลี่ยนแปลงว่าเธอมีอาการขี้บ่นบ้าง หงุดหงิดบ้าง อารมณ์ขึ้นลงบ้าง อย่างที่หลายคนเคยบอกไว้เด๊ะๆๆ เบย

ทำให้สรุปได้ว่า มันเป็นเรื่องธรรมชาติของคนท้องจ้า ก็ลองตัวเองมาท้องแทนดูสิ จะรู้ว่ามันเครียด มันหงุดหงิดแค่ไหน

ช่วงแรกที่เชอรี่เริ่มบ่นบ่อยๆ ผมก็มีพูดคุยโต้กันไปมาบ้าง ซึ่งก็มีที่ทำให้ไม่เข้าใจกัน ทะเลาะกัน … แต่สุดท้าย พอเริ่มรู้ว่า นี่มันเป็นธรรมชาติของคนท้องนะ มันก็เข้าใจได้ทันทีเลยครับ

เพราะงั้นทุกครั้งที่โดนบ่น โดนดุ โดนอารมณ์ขึ้นลงแบบไอ้เราก็ยังงงๆ อยู่ … ให้กัดลิ้นตัวเองไว้ !!

การพยักหน้า “ใช่คร๊าบบบบ ถูกต้องคร๊าบบบบ ผมผิดไปแล้วคร๊าบบบบ” พร้อมผงกหัวขึ้นลง ยิ้มรับ และยอมรับว่าคนท้อง (เมีย) ถูกเสมอ นั่นแหล่ะครับ คือวิธีดูแลคนท้องที่ถูกต้องที่สุดแล้ว ^____^”

3. ตัดเล็บเท้า, นวดพุง, พาไปสระผม

คนท้องต้องการคนดูแลหลายอย่าง ซึ่งเท่าที่เคยอ่านจากเว็บหรือหนังสือ ส่วนใหญ่ก็บอกเรื่องกว้างๆ ทั่วไป แต่พอมาดูในรายละเอียด มันก็มีเรื่องเล็กๆ น้อยๆ ที่หลายคนมองข้ามไปเหมือนกันนะ

เช่น ช่วงนึงที่เชอรี่บ่นว่าเจ็บเท้า เล็บขบกัดจนเดินแล้วเจ็บ พอผมยกเท้าเค้าขึ้นมาดูก็ร้อง โอ้โห้ !! เล็บยาวมากกกกก พอถามว่าทำไมไม่ตัดเล็บ ก็ถึงได้รู้ว่าเพราะคนท้องพุงใหญ่ เลยเอื้อมไปตัดเล็บไม่ถึง แต่ก็ไม่กล้าบอกให้เราช่วย เพราะมันเป็นเล็บเท้า ไอ้เราก็รีบจัดการตัดเล็บให้เลย

อีกเรื่องคือพอดีเชอรี่ได้สินค้ามารีวิว พวกครีมกันท้องลาย หรือน้ำมันนวดพุง ไอ้ผมก็อยากลองพอดี ก็เลยอาสาทาพุงให้ นวดพุงให้เป็นประจำก่อนนอน ซึ่งก็ดีนะ ทำให้เราได้ใช้เวลาคุยกันมากขึ้นด้วย

สุดท้ายคือสาวๆ ก็ชอบไปร้านทำผมเป็นธรรมดา มีเวลาก็ควรพาไปบ้าง เป็นช่วงเวลาคลายเครียดของสาวๆ เค้าล่ะ

2. พาภรรยาไปออกงานสังคมบ้าง

ผมเคยอ่านเจอในหนังสือเล่มนึงเขียนไว้ว่า ผู้หญิงเวลาท้อง มักจะมีความกลัวแอบแฝงที่ไม่แสดงออกมา เช่น กลัวว่าตัวเองอ้วนไม่สวยแล้วสามีจะทิ้ง กลัวสามีจะเปลี่ยนไป

ผมว่าสาวๆ ทุกคนต้องการการยอมรับทางสังคม โดยเฉพาะเรื่องความรัก อยากได้ความมั่นใจว่าเราจะอยู่กับเค้า เราจะดูแลเค้า อยู่ข้างๆ เค้าไปตลอด

แต่ผู้ชายจะตรงข้าม คือไม่ค่อยแสดงออก โดยเฉพาะเวลาอยู่ต่อหน้าสังคม

ดูง่ายๆ รูปใน Facebook เราก็มักจะเห็นสาวๆ ถ่ายรูปกับแฟน แล้วก็แท็กไปมา ส่วนผู้ชายนานๆ ทีจะโพสต์รูปคู่หรือเขียนเรื่องแฟนเราซะทีนึง

ทุกครั้งที่มีโอกาส ผมก็จะพยายามพาเชอรี่ไปออกงานสังคมบ้าง ไปเจอเพื่อนๆ ของเราที่เค้าไม่ค่อยรู้จักบ้าง ไปเจอกับครอบครัวเราให้เค้าไม่เหงาบ้าง ซึ่งทุกครั้งที่กลับมาจากงาน ผมก็จะแอบเห็นเค้ากดมือถือโพสต์รูปอย่างมีความสุข

อีกอย่างคือเวลาอยู่ต่อหน้าผู้คน ก็จะเป็นการบอกตัวเราเองว่า “ต้องดูแลภรรยาดีๆ ด้วยนะ”

1. พาไปช็อปปิ้ง !!!

จากงานวิจัยส่วนตัวของผมพบว่า “ผู้หญิง 99% ชื่นชอบการช็อปปิ้ง … ที่เหลืออีก 1% คือช็อปจนตังค์หมดไปแล้ว

คนท้องก็ต้องการให้ตัวเองสวยอยู่ตลอดเหมือนกันนะ จะให้ใส่ชุดคลุมท้องแบบป้าๆ เชยๆ มันก็ไม่มั่นใจ ถึงแม้จะซื้อมาแล้วได้ใส่แค่ไม่กี่เดือนก็เถอะ แต่ผู้หญิงอย่าหยุดสวย เข้าใจไหม !!

นอกจากพาไปช็อปปิ้งของใช้ส่วนตัวของภรรยาแล้ว แผนกสินค้าเด็กถือเป็นสวรรค์ของว่าที่คุณแม่ทั้งหลายเลยแหล่ะ เวลาพาไปทุกครั้ง เค้าจะเหมือนได้อยู่ในทุ่งดอกไม้ ทุกอย่างดูน่ารัก สวยงาม มุ้งมิ้ง จนรู้ตัวอีกที คุณก็อยู่หน้า Cashier เตรียมรูดบัตรจ่ายตังค์แย้ววว

ยิ่งถ้าคุณได้พาเธอไปงาน Baby Best Buy หรือมหกรรมลดราคาของใช้แม่และเด็กเมื่อไหร่นะ โอ้โห !! คุณจะได้เจอภาพคนท้องจำนวนมหาศาลวิ่งร้อยเมตร แย่งกันซื้อของ Sale สนุกมาก ขอให้ลอง 5555

แต่สิ่งที่คุณผู้ชายจะได้มากกว่า นั่นคือการได้เรียนรู้วิธีเลี้ยงเด็กแบบอ้อมๆ คือพอเรารู้ว่าจะต้องซื้อ ที่ปั้มนม, ขวดนม, รถเข็น, เตียงเด็ก, ชุดแรกเกิด และอุปกรณ์อีกเพียบ ตามธรรมชาติคุณผู้ชายก็ต้องหาข้อมูล ดูสเปค เปรียบเทียบหลายอย่าง

สุดท้าย จากที่ไม่สนใจ ผมพบว่าตัวเองสนุกกับการเดินแผนกเด็กโดยไม่รู้ตัว และทำให้เราได้คุยเรื่องการดูแลลูกที่กำลังจะคลอดกับภรรยาของคุณเยอะขึ้นด้วยจ้า (แต่อย่าถามถึงตอนสลิปบัตรเครดิตมาที่บ้านนะ 555)