ปายช้าปาย

ขณะที่กำลังเขียนบล็อกนี้อยู่ ผมกำลังนั่งสั่นกับอากาศเย็นสบายช่วงเที่ยงคืน หลังผ่าน 762 โค้งจากเชียงใหม่ขึ้นมาในสถานที่เที่ยวที่ฮ๊อตที่สุดในช่วง 4-5 ปีมานี้ … “ปาย”

ในฐานะคนที่เพิ่งเคยมาปายครั้งแรก (เชยเน๊อะ) ตลอดทั้งวันนี้ผมพยายามมองหาว่าอะไรที่น่าสนใจบ้างที่ปาย ซึ่งจริงๆ แล้วปายก็มีสิ่งน่าสนใจหลายอย่างที่เห็นกันตามหนังสือท่องเที่ยว ไม่ว่าจะเป็นของที่ระลึก, เสื้อยืดปาย, ธรรมชาติ, ของกิน, ผู้คน ฯลฯ

แต่สิ่งนึงที่ผมสังเกตุเห็น และก็ได้อะไรจากสิ่งนั้นมากเลยตลอดช่วงวันสองวันที่อยู่ที่นี่ นั่นคือความ “ช้า” แบบปาย

ด้วยความที่เราทำงานในสายไอที เรียนมาทางวิศวะ ก็แน่นอนว่าเราเชื่อในความ “เร็ว” ตลอดเวลาเราจะถูกสอนมาเสมอว่าต้องทำให้เร็ว คิดให้ไว ทำทุกอย่างด้วยความเร่งรีบ

ผมพบว่าโลกที่ “ปาย” คือโลกแห่งความค่อยเป็นค่อยไป โลกที่ไม่ต้องมี Push Notification ก็อยู่กันได้, โลกที่ไม่ต้องกดไลค์, โลกที่ไม่ต้องตอบคำถามให้ได้ภายใน 3 วินาที, โลกที่ไม่ต้องติดตามอะไรแบบที่ต้องรู้เป็นคนแรกให้ได้ถึงจะเท่ห์

วันนี้ระหว่างที่กินข้าวเย็นอยู่ร้านในตัวเมืองปาย ผมหันไปสั่งป้าคนหนึ่งที่กำลังปิ้ง “ข้าวปุกงาดำ” ของกินขึ้นชื่อของอำเภอปายแห่งนี้

“ป้า ขอขนมที่นึง” ผมยกมือเรียก
“เจ้า … ได้เจ้า …..” ป้ายิ้มรับ

สิ้นเสียงเอื้อนเอ่ยของป้า แกก็ค่อยๆ เดินไปหยิบขนมสีดำแผ่นกลมอย่างช้าๆ ป้ามองเห็นว่าถ่านในเตาเริ่มน้อย เลยวางแผ่นขนมก่อนแล้วก็เอื้อมไปใส่ถ่านอีกสองก้อน จากนั้นก็บรรจงปิ้งขนมให้เราแบบค่อยเป็นค่อยไป

ระหว่างนั้นมีชาวเกาหลีอีกสองคนเดินเข้ามาสั่งขนม

“อาน ยอง อา เซ โย” ป้ายิ้มทักทายด้วยภาษาเกาหลีแบบผิดๆ ถูกๆ แต่ก็เรียกรอยยิ้มจากผู้มาเยือนได้เป็นอย่างดี

ชาวเกาหลีทั้งสองคนสั่งขนมคนละสองชิ้น แต่แทนที่ป้าจะรีบไปหยิบขนมมาปิ้งเพื่อไม่ให้ลูกค้ารอนาน ป้ากลับยกมือขึ้นบอกให้รอเดี๋ยว แล้วก็ยืนปิ้งขนมที่ทำให้ผมอย่างช้าๆ อีกกว่านาที

“เสร็จแล้วเจ้า” ป้ายิ้ม พลางยื่นขนมสีดำ คลุกด้วยงา มีควันร้อนขึ้นมานิดหน่อย หน้าตาน่ากิน
“กี่บาทครับป้า”
“10 บาทเจ้า”

[10 บาท !! อุ๊แม่เจ้า O_o” ] ผมตะโกนในใจ ระหว่างที่รีบหยิบเงินให้ ป้ารับเหรียญ 10 ด้วยรอยยิ้ม พลางหันกลับไปหยิบขนมอีก 2 ชิ้นขึ้นมาวางบนเตา เพื่อปิ้งให้นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีต่อไป

ผมนั่งมองขนมชิ้นที่ป้าทำให้เราอย่างช้าๆ แต่เต็มไปด้วยความตั้งอกตั้งใจ หลังจากนั้นแทนที่ผมจะหยิบมันมาเข้าปากอย่างรวดเร็วเหมือนเคย …​ ผมกลับลองที่จะค่อยๆ หยิบมันขึ้นมา เป่าให้หายร้อน นำขนมหวานชิ้นนี้เข้าปาก

ผมค่อยๆ กินขนมชิ้นนี้อย่างช้าๆ แบบที่ไม่เคยกินอะไรช้าแบบนี้มาก่อน แล้วก็พบว่าขนมชิ้นที่เกิดจากการทำแบบค่อยเป็นค่อยไปแบบนี้ มีรสชาติที่ …

อร่อยที่สุดเลยครับ